กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – ภาคท่องเที่ยวเอกชนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว พร้อมทำงานกับทุกพรรค อยากให้แก้ปัญหาออกวีซ่านักท่องเที่ยวจีน พร้อมวอนรัฐบาลใหม่ชะลอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่อยากให้ซ้ำเติมภาคโรงแรมที่พัก
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า (ATTA) ในฐานะตัวแทนสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ FETTA ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 7 สมาคมท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรมไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภาคการตลาดการท่องเที่ยวไทย
นายศิษฎิวัชร กล่าวถึงปัญหาความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตอนนี้แม้ในภาพรวมการท่องเที่ยวจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสักเท่าไร แต่ว่าในความเป็นจริงการที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเวลาอันรวดเร็วยิ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่างๆ นักท่องเที่ยวก็จะมีความมั่นใจในการที่จะเดินทางเข้ามาไทยมากขึ้น บวกกับจะได้สามารถพูดคุยถึงปัญหาและนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวกับรัฐบาลใหม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ ว่าควรจะต้องปรับแก้ไขหรือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวอย่างไร
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยว ตอนนี้รัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำอะไรได้มาก คงต้องรอรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ยืนยันว่า FETTA พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง ตอนนี้อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นรูปเป็นร่างให้เร็วที่สุด
โดยเฉพาะปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้เป็นการด่วน คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งตามเป้าที่ทางรัฐบาลชุดก่อน และ ททท. ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องเดินทางเข้ามาในประเทศไทยให้ได้ 5-8 ล้านคน ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือน มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาไทยเพียงแค่ 1 ล้านคน ปัญหาหลักๆ ที่ได้รับทราบมา คือ การออกวีซ่าที่มีความล่าช้า จนทำให้บริษัททัวร์ เอเจนซี่ และนักท่องเที่ยว เกิดความเบื่อหน่าย และอาจจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนเป้าหมายไปยังประเทศอื่นแทน เพราะถ้าหากเทียบเมื่อปี 2019 ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากกว่า 10 ล้านคน ตอนนั้นการขอวีซ่าใช้เวลา 1-3 วันเท่านั้น แต่หลังจากสถานการณ์โควิด การขอวีซ่าต้องใช้เวลา 14 วัน และมีการปรับให้เร็วขึ้นที่ 7-10 วัน แต่ยังช้าอยู่ดี จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลใหม่ กระทรวงการต่างประเทศชุดใหม่ ช่วยพิจารณาแก้ไขปัญหาตรงนี้ เพื่อที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ จะต้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรมภายในไตรมาสที่ 3 เพื่อให้ไตรมาสที่ 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาตามเป้าที่วางไว้ได้
ทั้งนี้ ในนามของ FETTA เตรียมพูดคุยกับเอกชน ผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ในภาคท่องเที่ยว และเตรียมจัดทำเอกสารเปิดผนึกข้อเรียกร้อง ข้อเสนอในการผลักดันภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถึงผู้บริหารประเทศ รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น
ขณะที่ข้อเสนอแนะจากนางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) ต้องการให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ คือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากเดิมเป็น 450 บาท และ 600 บาท ในปี 2570 ตามลำดับนั้น สถานการณ์เวลานี้อยากขอให้ชะลอหรือหยุดนโยบายนี้ไปก่อน เพราะในส่วนของภาคการท่องเที่ยวต้องประสบปัญหาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งเรื่องของค่าไฟ ค่าพลังงานต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น การปรับขึ้นส่วนของค่าแรงจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมที่พัก
ภาพรวมของการเข้าพักของนักท่องเที่ยวในปีนี้ ตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 50-60% ถือว่าเริ่มฟื้นตัวมาแต่ยังไม่มาก ซึ่งเป้าในปีนี้ที่วางไว้หากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาได้ตามเป้าก็น่าจะทำให้ธุรกิจโรงแรมที่พักมีอัตราเฉลี่ยเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 60-65% คิดเป็นรายได้ประมาณ 80,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและผลักดันเรื่องของภาคการท่องเที่ยวได้มากน้อยขนาดไหน.-สำนักข่าวไทย