กทม. 5 ส.ค. – อาจารย์จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มองว่าการที่คณะทำงานอัยการออกมาระบุว่ามีพยานใหม่ในคดีบอสนั้น จะทำให้คดีนี้เดินต่อได้ แต่ต้องเดินไปพร้อมกับการอุดช่องโหว่ในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงบุคคลที่ทำให้เกิดการบิดเบือนพยานหลักฐาน
ผลตรวจสอบคณะทำงานอัยการสูงสุดให้สอบเพิ่มคดี “บอส อยู่วิทยา” แต่ยังตอบไม่ชัดประเด็นอัยการที่รับผิดชอบสำนวนมีคำสั่งไม่ฟ้อง ระบุเพียงว่าดำเนินการตามขั้นตอน ทำให้ยังคงเกิดข้อกังขาจากสังคม
อาจารย์จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นว่าคณะทำงานชุดนี้ตั้งขึ้นในบริบทองค์กรอัยการสูงสุด ผลที่ออกมามีส่วนที่น่าพอใจ เนื่องจากทางเดียวที่ให้มีการสอบสวนใหม่ในคดีนี้คือต้องมีหลักฐานใหม่ เมื่อคณะทำงานชี้ว่ามีหลักฐานใหม่ก็ทำให้เดินต่อได้ แต่ก็มีส่วนที่ต้องเพิ่มเติม อยากฝากไปถึงคณะทำงานว่าความผิดพลาดที่เกิดจากช่องโหว่ของระบบ มีคนเกเรแฝงตัวอยู่ในกระบวนการยุติธรรม จะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร
ช่องโหว่ที่ชัดเจนที่สุดคือระบบกระบวนการยุติธรรมปัจจุบันให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากในการใช้ดุลพินิจ อาทิ การสั่งไม่ฟ้องหรือถอนฟ้องในคดีอาญา ที่ยังไม่มีหลักเกณฑ์ในการใช้ดุลพินิจที่ชัดเจน ควรต้องมีการเผยแพร่และให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบติดตามได้ นอกจากนี้ยังไม่มีการดุลคานอำนาจในการใช้ดุลพินิจอีกด้วย ขณะที่การสืบสวนสอบสวนยังเป็นระบบรวมศูนย์อยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การสืบสวนเป็นความลับทางคดี ไม่มีองค์กรตรวจสอบและคานอำนาจเช่นกัน
อาจารย์จรัญมองว่าคดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องพยานหลักฐานใหม่ที่จะต้องเดินหน้าต่อเท่านั้น แต่ยังต้องเดินหน้าที่จะหาคนรับผิดชอบทั้งเรื่องการบิดเบือนพยานหลักฐาน บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จะสร้างระบบยุติธรรมที่เข้มแข็งได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย