อ.เสรี ไขคำตอบ “แผ่นดินไหว รับรู้ไกลนับ1,000 กม.” อาจเผชิญอาฟเตอร์ช็อกถึง 1,000 ครั้ง

แผ่นดินไหว

1 เม.ย. -รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไทย ไขคำตอบความรุนแรงของแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 เมื่อ 28 มีนาคม 2568 – ระยะเวลาเผชิญอาฟเตอร์ช็อก – การเตรียมตัวของคนไทยรับมือความเปลี่ยนแปลงของโลกต่อจากนี้


ไขคำตอบ! “คนกรุงเทพฯ รับรู้แรงสั่นไหว เท่าคนเชียงใหม่ ทั้งที่ไกลกว่า 1,000 กม.”

อ.เสรี ระบุว่าแผ่นดินไหวขนาด 8.2 เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ในเมียนมา ซึ่งเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่มีพลังที่อยู่ใกล้ประเทศไทยที่สุด และนี่คือการเคลื่อนตัวในรอบ100-200 ปี ในลักษณะแนวราบ แม้ว่าห่างจากกรุงเทพมหานครนับพันกิโลเมตร แต่การรับรู้แรงสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับธรณีสันฐาน ซึ่งคนที่อยู่เชียงใหม่สามารถรับรู้ได้เท่ากับคนกรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นธรณีสันฐานแบบชั้นดินอ่อน ซึ่งจะเพิ่มขนาดของคลื่น 2-3 เท่าตัว เปรียบภาพเหมือนบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนฟองน้ำ เมื่อมีการทุบพื้นรอบฟองน้ำ ฟองน้ำก็จะกระเพื่อมด้วย แต่หากบ้านเรือนตั้งอยู่บนดิน เมื่อทุบรอบดิน แรงสะเทือนจะไม่กระเพื่อมเท่าอยู่บนฟองน้ำ เป็นเหตุให้กรุงเทพฯ อ่อนไหว ซึ่งแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นลักษณะคลื่นความถี่ต่ำ จะมีผลต่อตึกสูง จึงพบเห็นการโยกของตึก


ส่วนที่เมียนมา แรงสั่นสะเทือน ณ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ระดับ 9 – 10 (ระดับอันตรายสูง) จาก 12 ระดับ แต่ที่กรุงเทพฯ อยู่ที่ระดับ 4-5 ในทางสากลประเมินว่าระดับนี้ ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงต่อชิวิตและทรัพย์สินโดยรุนแรง จึงเป็นคำถามว่า “ทำไมตึก สตง.จึงถล่มเพียงตึกเดียว?” นี่คือปริศนาที่ต้องรอคำตอบ

ขอบคุณภาพ จาก เฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อก 500–1,000 ครั้ง ยาวนาน 2-3 เดือน
ข้อมูลจากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 1 เม.ย.68 เกิดอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 237 เหตุการณ์ หลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อ 13.20 น.วันที่ 28 มี.ค.68


ขอบคุณภาพ จากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา

อ.เสรี อธิบายว่า แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 7 ขึ้นไป มีโอกาสเกิดอาฟเตอร์ช็อกได้มากถึง 500-กว่า 1,000 ครั้ง แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกมีความเป็นอิสระสูง และอาจกินเวลานานถึง 2-3 เดือน แต่ความเสียหายจะไม่มากเท่าเมนช็อก ซึ่งความรุนแรงจะลดลงไปตามลำดับ เช่นกันกับแผ่นดินไหว (เมนช็อก) จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะมีโอกาสเสมอ และประเทศไทยโชคดีที่ไม่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ มีแต่รอยเลื่อนแขนง

“การไม่มีระบบเตือนภัย ทำให้คนไทยตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก”
ต้องยอมรับว่า การแจ้งเตือนภัย คือสิ่งที่ไทยต้องปรับปรุง หน่วยงานแรก ที่ต้องแจ้งข้อมูล คือ กรมอุตุนิยมวิทยาต้องประกาศออกมาทันที เพราะศูนย์เตือนภัยทั่วโลกประกาศออกมาแล้ว แต่กรมอุตุฯ มีการประกาศในเว็บไซต์เวลา 13.36 น.ล่าช้าจากเวลาเกิดเหตุไป 16 นาที ข้อความ SMS ก็ช้ามาเช่นกัน

แนวปฏิบัติที่ควรจะเป็นคือ กรมอุตุฯ ประกาศไปยังปภ. และส่งต่อไป กสทช.
แม้ กสทช. จะชี้แจงว่า ข้อความส่งได้จำนวนจำกัด สิ่งที่ กสทช.ต้องชี้แจงต่อคือ มีแผนรองรับหรือไม่? รวมถึง ณ เวลาเกิดเหตุ มีปัญหาเรื่องโครงข่าย สัญญาณโทรศัพท์โทรไม่ได้ โทรไลน์ก็ไม่ได้

ขอบคุณภาพ จาก เฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

“เตรียมตัวรับแผ่นดินไหว – อาฟเตอร์ช็อกอย่างไรดี ?”
สำหรับอาคาร บ้านเรือน กฎกระทรวง เรื่องการสร้างตึกให้รองรับแผ่นดินไหว ไม่ได้กำหนดว่าต้องสร้างให้รับแรงแผ่นดินไหวขนาดเท่าไหร่ เพียงแต่กำหนดอัตราเร่ง อย่างไรก็ตาม หากออกแบบตามกฎกระทรวงแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย

ส่วนอาคารที่ได้รับความเสียหาย จากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ต้องเฝ้าระวัง เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่อาฟเตอร์ช็อก อาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญต้องลงพื้นที่ตรวจอย่างละเอียด พร้อมแนะนำว่า ต้องกำหนดไทม์ไลน์ว่าตรวจเสร็จเมื่อใด เพื่อให้ประชาชนวางแผนชีวิต เนื่องจากยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถกลับเข้าคอนโดฯ ได้

สำหรับประชาชน เมื่อเผชิญเหตุการณ์และอยู่ในภาวะตื่นตระหนก วิธีปฏิบัติสากลคือต้องหลบอยู่ใต้โต๊ะ จนตัวเองไม่รู้สึกสั่นไหว แล้วค่อยออกจากอาคาร เพราะหากวิ่งออกทางประตูจำนวนมาก อาจเกิดจากเหยียบกันจนบาดเจ็บได้

ขอบคุณภาพ จากเฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

แผ่นดินไหวครั้งนี้ สอนเราว่า “ความรู้สำคัญมาก”
อ.เสรี ทิ้งท้ายว่า ภัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อม ล้วนใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ ต้องเรียนรู้อยู่กับเขาให้ได้ การมีองค์ความรู้สำคัญมาก เป็นเรื่องความปลอดภัยของเรา อย่าปฏิเสธที่จะเรียนรู้ อย่าปฏิเสธวิทยาศาสตร์ อย่าหยุด อย่ายอมแพ้ และการซ้อมหนีภัยยังสำคัญ . -918 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]