อ.เสรี ไขคำตอบ “แผ่นดินไหว รับรู้ไกลนับ1,000 กม.” อาจเผชิญอาฟเตอร์ช็อกถึง 1,000 ครั้ง

แผ่นดินไหว

1 เม.ย. -รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไทย ไขคำตอบความรุนแรงของแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 เมื่อ 28 มีนาคม 2568 – ระยะเวลาเผชิญอาฟเตอร์ช็อก – การเตรียมตัวของคนไทยรับมือความเปลี่ยนแปลงของโลกต่อจากนี้


ไขคำตอบ! “คนกรุงเทพฯ รับรู้แรงสั่นไหว เท่าคนเชียงใหม่ ทั้งที่ไกลกว่า 1,000 กม.”

อ.เสรี ระบุว่าแผ่นดินไหวขนาด 8.2 เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ในเมียนมา ซึ่งเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่มีพลังที่อยู่ใกล้ประเทศไทยที่สุด และนี่คือการเคลื่อนตัวในรอบ100-200 ปี ในลักษณะแนวราบ แม้ว่าห่างจากกรุงเทพมหานครนับพันกิโลเมตร แต่การรับรู้แรงสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับธรณีสันฐาน ซึ่งคนที่อยู่เชียงใหม่สามารถรับรู้ได้เท่ากับคนกรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นธรณีสันฐานแบบชั้นดินอ่อน ซึ่งจะเพิ่มขนาดของคลื่น 2-3 เท่าตัว เปรียบภาพเหมือนบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนฟองน้ำ เมื่อมีการทุบพื้นรอบฟองน้ำ ฟองน้ำก็จะกระเพื่อมด้วย แต่หากบ้านเรือนตั้งอยู่บนดิน เมื่อทุบรอบดิน แรงสะเทือนจะไม่กระเพื่อมเท่าอยู่บนฟองน้ำ เป็นเหตุให้กรุงเทพฯ อ่อนไหว ซึ่งแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นลักษณะคลื่นความถี่ต่ำ จะมีผลต่อตึกสูง จึงพบเห็นการโยกของตึก


ส่วนที่เมียนมา แรงสั่นสะเทือน ณ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ระดับ 9 – 10 (ระดับอันตรายสูง) จาก 12 ระดับ แต่ที่กรุงเทพฯ อยู่ที่ระดับ 4-5 ในทางสากลประเมินว่าระดับนี้ ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงต่อชิวิตและทรัพย์สินโดยรุนแรง จึงเป็นคำถามว่า “ทำไมตึก สตง.จึงถล่มเพียงตึกเดียว?” นี่คือปริศนาที่ต้องรอคำตอบ

ขอบคุณภาพ จาก เฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อก 500–1,000 ครั้ง ยาวนาน 2-3 เดือน
ข้อมูลจากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 1 เม.ย.68 เกิดอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 237 เหตุการณ์ หลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อ 13.20 น.วันที่ 28 มี.ค.68


ขอบคุณภาพ จากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา

อ.เสรี อธิบายว่า แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 7 ขึ้นไป มีโอกาสเกิดอาฟเตอร์ช็อกได้มากถึง 500-กว่า 1,000 ครั้ง แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกมีความเป็นอิสระสูง และอาจกินเวลานานถึง 2-3 เดือน แต่ความเสียหายจะไม่มากเท่าเมนช็อก ซึ่งความรุนแรงจะลดลงไปตามลำดับ เช่นกันกับแผ่นดินไหว (เมนช็อก) จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะมีโอกาสเสมอ และประเทศไทยโชคดีที่ไม่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ มีแต่รอยเลื่อนแขนง

“การไม่มีระบบเตือนภัย ทำให้คนไทยตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก”
ต้องยอมรับว่า การแจ้งเตือนภัย คือสิ่งที่ไทยต้องปรับปรุง หน่วยงานแรก ที่ต้องแจ้งข้อมูล คือ กรมอุตุนิยมวิทยาต้องประกาศออกมาทันที เพราะศูนย์เตือนภัยทั่วโลกประกาศออกมาแล้ว แต่กรมอุตุฯ มีการประกาศในเว็บไซต์เวลา 13.36 น.ล่าช้าจากเวลาเกิดเหตุไป 16 นาที ข้อความ SMS ก็ช้ามาเช่นกัน

แนวปฏิบัติที่ควรจะเป็นคือ กรมอุตุฯ ประกาศไปยังปภ. และส่งต่อไป กสทช.
แม้ กสทช. จะชี้แจงว่า ข้อความส่งได้จำนวนจำกัด สิ่งที่ กสทช.ต้องชี้แจงต่อคือ มีแผนรองรับหรือไม่? รวมถึง ณ เวลาเกิดเหตุ มีปัญหาเรื่องโครงข่าย สัญญาณโทรศัพท์โทรไม่ได้ โทรไลน์ก็ไม่ได้

ขอบคุณภาพ จาก เฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

“เตรียมตัวรับแผ่นดินไหว – อาฟเตอร์ช็อกอย่างไรดี ?”
สำหรับอาคาร บ้านเรือน กฎกระทรวง เรื่องการสร้างตึกให้รองรับแผ่นดินไหว ไม่ได้กำหนดว่าต้องสร้างให้รับแรงแผ่นดินไหวขนาดเท่าไหร่ เพียงแต่กำหนดอัตราเร่ง อย่างไรก็ตาม หากออกแบบตามกฎกระทรวงแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย

ส่วนอาคารที่ได้รับความเสียหาย จากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ต้องเฝ้าระวัง เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่อาฟเตอร์ช็อก อาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญต้องลงพื้นที่ตรวจอย่างละเอียด พร้อมแนะนำว่า ต้องกำหนดไทม์ไลน์ว่าตรวจเสร็จเมื่อใด เพื่อให้ประชาชนวางแผนชีวิต เนื่องจากยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถกลับเข้าคอนโดฯ ได้

สำหรับประชาชน เมื่อเผชิญเหตุการณ์และอยู่ในภาวะตื่นตระหนก วิธีปฏิบัติสากลคือต้องหลบอยู่ใต้โต๊ะ จนตัวเองไม่รู้สึกสั่นไหว แล้วค่อยออกจากอาคาร เพราะหากวิ่งออกทางประตูจำนวนมาก อาจเกิดจากเหยียบกันจนบาดเจ็บได้

ขอบคุณภาพ จากเฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

แผ่นดินไหวครั้งนี้ สอนเราว่า “ความรู้สำคัญมาก”
อ.เสรี ทิ้งท้ายว่า ภัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อม ล้วนใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ ต้องเรียนรู้อยู่กับเขาให้ได้ การมีองค์ความรู้สำคัญมาก เป็นเรื่องความปลอดภัยของเรา อย่าปฏิเสธที่จะเรียนรู้ อย่าปฏิเสธวิทยาศาสตร์ อย่าหยุด อย่ายอมแพ้ และการซ้อมหนีภัยยังสำคัญ . -918 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]