สตง.ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รพ.สนามแห่งหนึ่ง ราคาแพงเกินจริง

สมุทรสาคร 19 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ สตง.เข้าตรวจสอบการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ภายในรพ.สนามแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร หลังได้รับร้องเรียนว่า มีราคาสูงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว โดยเฉพาะตัวกล้องที่ราคาตัวละ 19,000 บาท ขณะที่ตามท้องตลาดจำหน่ายกันเพียงไม่ถึงตัวละ 1,000 บาท  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 3 นครปฐม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เดินทางไปยังสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจสอบฎีกาการเบิกจ่ายเงินจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม 2 แห่งใน จ.สมุทรสาคร ที่ถูกร้องเรียนตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าราคาอุปกรณ์ที่ทาง อบต.ดังกล่าวจัดซื้อจัดจ้างมีในราคาสูงกว่าปกติอย่างมาก และใช้งบประมาณไปเกือบ 60 ล้านบาท อีกทั้งยังมีการรีบเร่งทำเรื่องเบิกจ่ายอีกหลายล้านบาท โดยเฉพาะกล้อง CCTV ที่นำมาติดในโรงพยาบาลสนาม ที่ราคาตามร้านค้าขายทั่วไปเพียงตัวละไม่เกิน 1,000 บาท แต่ทาง อบต.ดังกล่าว จัดซื้อมาตัวละ 19,000 บาท รวม 113 ตัว จนมีการตั้งข้อสังเกตถึงการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ว่ามีราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสอบปากคำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เดินทางไปถึงสำนักงาน อบต.ดังกล่าว คณะผู้บริหาร อบต.ที่กำลังจัดดอกไม้ไหว้ศาลพระพรหม อยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน เห็นรถของเจ้าหน้าที่ สตง. ขับเข้ามาในพื้นที่ ต่างตกใจรีบวิ่งหลบหนีขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับออกไปอย่างรวดเร็ว คาดว่ากลัวเจ้าหน้าที่ สตง.จะเรียกสอบปากคำ โดยก่อนหน้านี้ สตง.ภาค 3 และ สตง.สมุทรสาคร ได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการคลัง พร้อมขอฎีกาการเบิกจ่ายเงินในการจัดซื้ออุปกรณ์โรงพยาบาลสนามทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสืออายัดและยึดกล้อง CCTV ทั้งหมดด้วย 


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยังนายกอบต. ที่เจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร ตรวจสอบแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงพยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงและความคืบหน้าการตรวจสอบไปยัง สตง.ภาค 3 กลับได้รับคำตอบเพียงว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้  

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน เพจเฟซบุ๊ก “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” เคยโพสต์ข้อมูลและเอกสารที่เอกชน ขายกล้องวงจรปิดให้ อบต.ท่าทราย พบว่ากล้องวงจรปิดมีราคาตัวละ 19,000 บาท  มีการสั่งซื้อจำนวน 113 ตัว  เป็นเงิน 2,147,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาจากเว็บไซต์ทั่วไป พบว่าส่วนใหญ่กล้องวงจรปิดยี่ห้อ “HIK Vision” รุ่น “DS-2CD1023G0E-I” พบราคาประมาณ 1,000 บาท ต่ำสุดที่พบประมาณ 700-950 บาท และสูงสุด 1,605 บาท  ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบราคา 19,000 บาท

สำหรับสเปคของกล้องรุ่นนี้ เป็นกล้องวงจรปิดทรงกระบอก เลนส์ขนาด 4 มิลลิเมตร คมชัด 2 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพที่บันทึกมีคุณภาพสูง และมาพร้อมระบบกันน้ำระดับ IP67 รวมถึงระบบอินฟาเรดขั้นสูง และเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่าย


นอกจากนี้ในหนังสือใบส่งของ พบราคาฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เก็บข้อมูล ราคาลูกละ 9,900 บาท ยี่ห้อ SkyHawk ขนาด 4 เทราไบต์ (เป็น HDD ไม่ใช่ SSD) และสั่งซื้อจำนวน 28 ลูก รวมเป็นเงิน 277,200 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ราคาตามท้องตลาดจะอยู่ที่ลูกละไม่เกิน 4,000 – 5,000 บาท อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือ ค่าแรงติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 113 จุด พบว่ามีราคาจุดละ 3,000 บาท รวมค่าแรงติดตั้งอยู่ที่ 339,000 บาท

สำนักข่าวไทยโทรศัพท์ติดต่อไปยังเอกชนที่ขายกล้องวงจรปิดให้ อบต.ท่าทราย พบว่าเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ไม่ทราบข้อมูล พร้อมให้ติดต่อฝ่ายขายด้วยตนเอง ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ฝ่ายขายที่ปรากฏในเว็บไซต์ก็เป็นเบอร์เดียวกันกับที่โทรไป จากนั้นเมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ที่คาดว่าเป็นเจ้าของบริษัท พบว่าไม่มีผู้รับสาย

ตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี 2559 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ประเภทธุรกิจคือ ขายปลีกอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม รายได้รวมปี 2562 อยู่ที่ 5.2 ล้านบาทเศษ และกำไรสุทธิ 487,164.44 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]