BIG STORY : ชงเอาผิด 2 อดีต ผบช.น.บกพร่องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กรุงเทพฯ 14 ส.ค.- คณะกรรมการตรวจสอบชุด “วิชา มหาคุณ” เรียกรองอัยการสูงสุดชี้แจงปมไม่สั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการชุดตำรวจเตรียมเสนอเอาผิดอดีต ผบช.น.ไม่ต่ำกว่า 2 นาย รวมถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องประมาณ 30 นาย


มีรายงานว่า พรุ่งนี้ (15 ส.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบคดี “บอส อยู่วิทยา” ชุดของตำรวจเตรียมเสนอรายชื่อตำรวจที่เข้าข่ายบกพร่องให้ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษ ซึ่งมีทั้งบกพร่องมากและบกพร่องน้อย นอกจากนี้ มีรายงานว่า ผบ.ตร.ส่งพยานหลักฐานและรายละเอียดข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 147 ส่วนข้อหาเสพโคเคนส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีแล้วเช่นกัน

รายงานจากการสอบสวนของคณะกรรมการฯ พบว่า ช่วงเวลา 3 ปี 5 เดือน นับจากวันที่ 3 กันยายน 2556 พนักงานอัยการมีหนังสือเร่งรัดให้ออกหมายจับนายวรยุทธ โดยส่งถึงพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ 7 ครั้ง หนังสือเร่งรัดให้รีบส่งตัวดำเนินคดี 12 ครั้ง ทวงถามผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ในขณะนั้น 1 ครั้ง และมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น 2 ครั้ง เพื่อเร่งรัดออกหมายจับในข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความ และขอให้รีบส่งตัวมาดำเนินคดี


อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในช่วงเวลา 3 ปี 5 เดือน กลับไม่มีการขออนุมัติออกหมายจับ กระทั่ง 25 เมษายน 2560 นายวรยุทธ ออกนอกประเทศ ส่วนพนักงานสอบสวนไปขอออกหมายจับวันที่ 28 เมษายน 2560 หลังจากนายวรยุทธ เดินทางออกไปแล้ว 3 วัน คณะกรรมการฯ เล็งเห็นว่า หากในช่วงเวลา 3 ปี 5 เดือน ถ้าออกหมายจับก็มีโอกาสจับกุมนายวรยุทธ มาดำเนินคดีได้

มีรายงานด้วยว่า ข้อหาขับรถชนแล้วไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน และข้อหาขับรถชนแล้วไม่หยุดให้การช่วยเหลือ เป็น 2 ข้อหาที่มีพยานหลักฐานมั่นเหมาะเพียงพอที่จะขอออกหมายจับ แต่กลับไม่ดำเนินการ จึงเป็นอีกหนึ่งข้อบกพร่องที่ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณา ซึ่งพบตำรวจที่เข้าข่ายมีความบกพร่อง อาทิ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 นาย อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 จำนวน 2-3 นาย อดีตรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รับผิดชอบดูแลงานสอบสวน 2-3 นาย อดีตผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ 3-4 นาย อดีตรองผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ รับผิดชอบงานสอบสวน 3-4 นาย นอกจากนี้ มีตำรวจที่บกพร่องในคดีนี้อีก 11 นายที่ ป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดไว้แล้ว

บิ๊ก ตร.พา “สายประสิทธิ์” พบ “พ.ต.อ.ธนสิทธิ์” คำนวณความเร็วรถ


ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลสำคัญว่า มีอดีตนายตำรวจระดับสูงพานายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม เข้าพบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ที่กองพิสูจน์หลักฐานเมื่อปี 2559 เพื่ออธิบายวิธีการคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่ โดยอดีตนายตำรวจระดับสูง มีตำแหน่งเป็น สนช. เดินทางมากัน 3 คน คือ นายสายประสิทธิ์ รวมถึง พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ

แหล่งข่าวยืนยันว่า อดีตนายตำรวจระดับสูงไม่ได้พูดกดดันหรือขู่บังคับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็ว เพียงแค่มาเสนอวิธีคำนวณอีกแบบ ซึ่งเป็นการคำนวณความเร็วจากสเปกรถยนต์ และมีรายงานว่าหลังรับฟังวิธีคำนวณสูตร ทำให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ก็เห็นคล้อยตาม จึงให้การว่าความเร็วลดลง

แต่มีรายงานภายหลังว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ กลับมาคำนวณใหม่ด้วยวิธีของตนเอง และพบว่าสูตรของนายสายประสิทธิ์ คลาดเคลื่อนมากกว่า 40% จึงรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อขอเปลี่ยนแปลงคำให้การกับพนักงานสอบสวน แต่สายเกินไป เนื่องจากมีการสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว

ล่าสุด พบว่าสื่อหลายสำนักรายงานตรงกัน โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ โพสต์ข้อความผ่าน FB ว่า ผู้ที่พานายสายประสิทธิ์ มาพบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. โดยได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559

“วิชา” เชิญ “เนตร-อรรถพล” ให้ข้อมูลอย่างละเอียด

ส่วนความเคลื่อนไหวการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ชุดของนายวิชา มหาคุณ เชิญนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด รวมถึงนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง

นายวิชา บอกว่า คำชี้แจงของนายอรรถพล ยืนยันความคิดเห็นว่า คดีนี้อัยการสูงสุดเคยสั่งยุติรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรม แต่การที่นายเนตร หยิบยกมาพิจารณาอีกครั้งนั้นกระทำไม่ได้ เว้นแต่ต้องรายงานให้อัยการสูงสุดรับทราบ หากสั่งไปแล้วโดยไม่พิจารณารอบคอบถือว่าสั่งฟ้องคดีโดยมิชอบ

เผยข้อมูลการลาออก “เนตร” ยังไม่ได้รับอนุมัติลาออก

นายวิชา บอกว่า สิ่งที่น่าสนใจ คือ นายเนตร ขณะปฏิบัติหน้าที่ขณะนั้นไม่ได้เป็นรองอัยการสูงสุดโดยสมบูรณ์ โดยสั่งการไปในฐานะของอธิบดีอัยการศาลสูง รักษาราชการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุดและปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นตำแหน่ง 3 ต่อกัน จึงเกิดประเด็นปัญหาที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงาน โดยจะเชิญนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด มาชี้แจงภายในสัปดาห์หน้า

นายวิชา กล่าวว่า การชี้แจงของนายเนตร ยืนยันว่าการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรม เป็นไปตามทนายความร้องขอและสำนักคดีกิจการอัยการเป็นฝ่ายตั้งเรื่องมาว่าเห็นสมควรสั่งสอบเพิ่มเติม ซึ่งการสั่งไม่ฟ้องเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่เห็นด้วยกับการตั้งข้อสังเกตของนายอรรถพล เพราะมั่นใจว่าสั่งโดยมีอำนาจและสั่งเช่นนี้ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ พร้อมย้ำว่า นายเนตร ลาออกด้วยตนเอง แต่การลาออกจะมีผลต่อเมื่ออัยการสูงสุดสั่งอนุมัติ และขณะนี้ยังไม่มีการสั่งอนุมัติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]