สตง.ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รพ.สนามแห่งหนึ่ง ราคาแพงเกินจริง

สมุทรสาคร 19 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ สตง.เข้าตรวจสอบการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ภายในรพ.สนามแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร หลังได้รับร้องเรียนว่า มีราคาสูงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว โดยเฉพาะตัวกล้องที่ราคาตัวละ 19,000 บาท ขณะที่ตามท้องตลาดจำหน่ายกันเพียงไม่ถึงตัวละ 1,000 บาท  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 3 นครปฐม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เดินทางไปยังสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจสอบฎีกาการเบิกจ่ายเงินจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม 2 แห่งใน จ.สมุทรสาคร ที่ถูกร้องเรียนตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าราคาอุปกรณ์ที่ทาง อบต.ดังกล่าวจัดซื้อจัดจ้างมีในราคาสูงกว่าปกติอย่างมาก และใช้งบประมาณไปเกือบ 60 ล้านบาท อีกทั้งยังมีการรีบเร่งทำเรื่องเบิกจ่ายอีกหลายล้านบาท โดยเฉพาะกล้อง CCTV ที่นำมาติดในโรงพยาบาลสนาม ที่ราคาตามร้านค้าขายทั่วไปเพียงตัวละไม่เกิน 1,000 บาท แต่ทาง อบต.ดังกล่าว จัดซื้อมาตัวละ 19,000 บาท รวม 113 ตัว จนมีการตั้งข้อสังเกตถึงการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ว่ามีราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสอบปากคำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร เดินทางไปถึงสำนักงาน อบต.ดังกล่าว คณะผู้บริหาร อบต.ที่กำลังจัดดอกไม้ไหว้ศาลพระพรหม อยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน เห็นรถของเจ้าหน้าที่ สตง. ขับเข้ามาในพื้นที่ ต่างตกใจรีบวิ่งหลบหนีขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับออกไปอย่างรวดเร็ว คาดว่ากลัวเจ้าหน้าที่ สตง.จะเรียกสอบปากคำ โดยก่อนหน้านี้ สตง.ภาค 3 และ สตง.สมุทรสาคร ได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการคลัง พร้อมขอฎีกาการเบิกจ่ายเงินในการจัดซื้ออุปกรณ์โรงพยาบาลสนามทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสืออายัดและยึดกล้อง CCTV ทั้งหมดด้วย 


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยังนายกอบต. ที่เจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 3 นครปฐม และเจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรสาคร ตรวจสอบแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงพยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงและความคืบหน้าการตรวจสอบไปยัง สตง.ภาค 3 กลับได้รับคำตอบเพียงว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้  

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน เพจเฟซบุ๊ก “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” เคยโพสต์ข้อมูลและเอกสารที่เอกชน ขายกล้องวงจรปิดให้ อบต.ท่าทราย พบว่ากล้องวงจรปิดมีราคาตัวละ 19,000 บาท  มีการสั่งซื้อจำนวน 113 ตัว  เป็นเงิน 2,147,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาจากเว็บไซต์ทั่วไป พบว่าส่วนใหญ่กล้องวงจรปิดยี่ห้อ “HIK Vision” รุ่น “DS-2CD1023G0E-I” พบราคาประมาณ 1,000 บาท ต่ำสุดที่พบประมาณ 700-950 บาท และสูงสุด 1,605 บาท  ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบราคา 19,000 บาท

สำหรับสเปคของกล้องรุ่นนี้ เป็นกล้องวงจรปิดทรงกระบอก เลนส์ขนาด 4 มิลลิเมตร คมชัด 2 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพที่บันทึกมีคุณภาพสูง และมาพร้อมระบบกันน้ำระดับ IP67 รวมถึงระบบอินฟาเรดขั้นสูง และเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่าย


นอกจากนี้ในหนังสือใบส่งของ พบราคาฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เก็บข้อมูล ราคาลูกละ 9,900 บาท ยี่ห้อ SkyHawk ขนาด 4 เทราไบต์ (เป็น HDD ไม่ใช่ SSD) และสั่งซื้อจำนวน 28 ลูก รวมเป็นเงิน 277,200 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ราคาตามท้องตลาดจะอยู่ที่ลูกละไม่เกิน 4,000 – 5,000 บาท อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือ ค่าแรงติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 113 จุด พบว่ามีราคาจุดละ 3,000 บาท รวมค่าแรงติดตั้งอยู่ที่ 339,000 บาท

สำนักข่าวไทยโทรศัพท์ติดต่อไปยังเอกชนที่ขายกล้องวงจรปิดให้ อบต.ท่าทราย พบว่าเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ไม่ทราบข้อมูล พร้อมให้ติดต่อฝ่ายขายด้วยตนเอง ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ฝ่ายขายที่ปรากฏในเว็บไซต์ก็เป็นเบอร์เดียวกันกับที่โทรไป จากนั้นเมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ที่คาดว่าเป็นเจ้าของบริษัท พบว่าไม่มีผู้รับสาย

ตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี 2559 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ประเภทธุรกิจคือ ขายปลีกอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม รายได้รวมปี 2562 อยู่ที่ 5.2 ล้านบาทเศษ และกำไรสุทธิ 487,164.44 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง