กทม. 17 ต.ค. – บ่าย 2 กว่าๆ ของวันที่ 16 ตุลาคม ฝนตกหนักที่ราชประสงค์ พร้อม ๆ กับที่ตำรวจควบคุมฝูงชน 18 กองร้อย หรือเกือบ 3 พันนาย ตรึงกำลังรอบราชประสงค์ ป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมคณะราษฎรเข้าพื้นที่ได้
ลวดหนามหีบเพลง แบริเออร์ รั้วเหล็ก ถูกวางกั้นตามตรอกซอกซอย ไม่ให้คนผ่านเข้าถนนราชประสงค์
แต่ผู้ชุมนุมเปลี่ยนที่ชุมนุมฉับพลันเป็นแยกปทุมวัน ซึ่งอยู่ห่างจากราชประสงค์เพียง 1.3 กิโลเมตร
ผมเดินเท้าจากแยกราชประสงค์ เพื่อไปแยกปทุมวัน พอถึงแยกเฉลิมเผ่า คือช่วงถนนอังรีดูนังต์ บรรจบถนนพระราม 1 มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนอยู่เต็มทั้งพื้นที่บนถนนและบนสกายวอล์ก สิ่งกีดขวางถูกวางไว้จนเดินข้างล่างไม่ได้ ต้องขึ้นสะพานลอย
จากแยกเฉลิมเผ่าถึงแยกปทุมวันระยะทาง 800 เมตร เดินบนทางเดินเท้าไปเรื่อยๆ ถึงแยกปทุมวัน ซึ่วผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่สี่แยกแล้วอย่างรวดเร็ว และล้นออกตามถนนสี่ด้านไปอีกมาก ส่วนบนสกายวอล์กเต็มไปด้วยผู้ชุมนุมเช่นกัน
ผมพยายามเดินสัมภาษณ์นักเรียนมัธยมต้นหลายคนที่มาร่วมชุมนุม เพื่ออยากรู้ถึงเหตุผลการเข้าร่วมชุมนุม เพราะถือเป็นผู้ชุมนุมที่ยังอายุน้อย คำตอบที่ได้คล้ายๆ กัน คือออกมาชุมนุมเพื่ออนาคตของคนรุ่นพวกเขาเอง
นักเรียนมัธยมเข้าร่วมชุมนุมที่แยกปทุมวันค่อนข้างเยอะ และส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิง นักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งแยกไปปราศรัยย่อย ถึงระบบการศึกษาหน้าหอศิลป์ฯ ขณะที่กลางสี่แยก เป็นรถกระบะที่ดัดแปลงให้แกนนำชุมนุมได้ขึ้นปราศรัย สลับกับการตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” เพื่อให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป 20 กว่าคน
แต่การชุมนุมผ่านไปเพียงราวชั่วโมงกว่า ขณะผมยืนรายงานข่าวอยู่บนสกายวอล์กฝั่งสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ผู้คนก็แตกฮือ มองลงไป นักเรียนหญิงซึ่งมีจำนวนมากในที่ชุมนุม วิ่งหนีไปทางสนามศุภชลาศัย และจุฬาลงกรณ์ ด้วยความหวาดวิตก เสียขวัญ
ผมนึกถึงก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที ที่เดินสัมภาษณ์นักเรียน ความรู้สึกของพวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยความหวังต่างๆ แต่นาทีนั้นคงมีแต่ความตื่นตระหนก
แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีเยาวชนหญิงในชุดนักเรียนมัธยมปลายหลายคน วิ่งขอร่มจากผู้ชุมนุม เพื่อนำไปกางกั้นเป็นแนวหน้า ป้องกันน้ำจากการถูกสลายชุมนุม แต่ร่มเหล่านั้น มิอาจต้านน้ำแรงดันสูงได้
ตำรวจควบคุมฝูงชนขยับจากแยกเฉลิมเผ่าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เสียงกระบองเคาะโล่เกราะข่มขวัญผู้ชุมนุม น้ำแรงดันสูงถูกฉีดออกมาเป็นระยะ นานๆ ครั้ง มีเสียงเครื่องยิงแก๊สน้ำตาดังขึ้น ผู้ชุมนุมชายนำรั้วเหล็ก กระถางดอกไม้ไปทำแนวกั้น และเข้าผลักดันตำรวจ แต่มิอาจต้านทานได้
บางคนนำร่มขนาดใหญ่ที่แม่ค้าใช้ขายของ ก็มิอาจต้านทานแรงดันน้ำได้
เพียง 2 ชั่วโมง ตำรวจก็เข้าถึงแยกปทุมวัน ยึดที่ชุมนุมได้สำเร็จ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่หนีออกไปทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวนมากหลบอยู่ทางไปสนามศุภชลาศัย ซึ่งต่อมาถูกตำรวจไล่จับกุม บางส่วนหนีทันออกมาทางหน้า MBK ฝั่งถนนพญาไท
แนวหน้าของผู้ชุมนุมที่พยายามต้านการสลายการชุมนุม ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขานำสิ่งกีดขวางมาวางไว้หน้าห้าง MBK บนถนนพญาไท ขณะเดียวกันรถปราศรัยของผู้ชุมนุม ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เพราะกลัวจะบาดเจ็บและถูกจับกุมไปมากกว่านี้ จนในที่สุด พวกเขายอมเดินเท้าออกไปทางถนนพระราม 4
เป็นค่ำคืนฝันร้ายของผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน นักเรียน นักศึกษา
แต่ที่เห็นเมื่อคืน เชื่อว่าฝันร้ายนั้นน่าจะยิ่งทำให้พวกเขาออกมาชุมนุมมากกว่าเดิม
17 ตุลาคม 2563
สันติวิธี พรหมบุตร
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย