กทม. 12 ส.ค. – ย้อนเหตุการณ์สาวใหญ่ขับเบนซ์ป้ายแดงเมา เฉี่ยวชนรถแล้วหนี ขอโทษก่อเหตุเพราะเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา
เหตุการณ์ที่ น.ส.วิชาดา วิทยสินธนา อายุ 37 ปี เมาขับเบนซ์ป้ายแดง รุ่น E220d สีดำ ทะเบียน ฐ 0710 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถหลายคันแล้วหลบหนี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย มีรถยนต์ 2 คัน และจักรยานยนต์อีก 4 คัน เสียหาย
รถเบนซ์คันดังกล่าวเริ่มชนแล้วหนีตั้งแต่เวลา 23.00 น. ขับชนรถของประชาชนบริเวณแยกแคราย จ.นนทบุรี มุ่งหน้าเข้าถนนวิภาวดี-รังสิต ก่อนเลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน จากนั้นมุ่งมายังถนนกำแพงเพชร และสิ้นสุดลงที่ถนนพระราม 6 รวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางมีประชาชน อาสาสมัครกู้ภัยและตำรวจพยายามช่วยกันติดตามปิดล้อมและสกัดจับแต่ไม่เป็นผล กระทั่งรถเบนซ์คันดังกล่าวไปชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ด้านหน้าบริษัทคงอุดม สภาพด้านหน้ารถเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน กระจกด้านหลังถูกทุบจนแตกเสียหาย ระหว่างนั้น นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” ได้ออกมาช่วยเหลือและเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนขับรถเบนซ์ลงมาจากรถและอยู่ในความสงบ
นายชัชวาลย์ บอกว่า เมื่อคืนระหว่างคุยธุระอยู่ในที่พักย่านเตาปูน ช่วง 4 ทุ่ม ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกันที่หน้าบ้าน จึงออกไปดู พบรถเบนซ์สภาพพังยับเยินจอดอยู่ และมีกลุ่มคนที่ขับตามมาใช้หมวกกันน็อกพยายามทุบรถ เพื่อให้คนขับลงมาจากรถ ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของบ้าน จึงเข้าไปช่วยเจรจา เมื่อเปิดประตูรถได้ พบ น.ส.วิชาดา สวมชุดเดรสลายดอกสีฟ้า มีแผลแตกเลือดไหลบริเวณคิ้วขวา จึงพยายามเข้าช่วยเกลี้ยกล่อม ระหว่างพูดคุย น.ส.วิชาดา อยู่ในอาการเมาสุรา จึงพยายามพูดคุย “บอกให้หยุดหลบหนี” กระทั่งทราบว่าที่ น.ส.วิชาดา หลบหนีมาบริเวณนี้เนื่องจากพ่อของ น.ส.วิชุดา พักอาศัยอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น ตนจึงติดต่อพ่อของ น.ส.วิชาดา จนทราบว่า น.ส.วิชุดา มีอาการเครียดเพราะถูกโกงเงินจากการทำธุรกิจเสียหายนับล้านบาท และเรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐ ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเริ่มต้นขับรถมาจากที่ใด และมาจอดตรงจุดนี้ได้อย่างไร พร้อมยืนยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวผู้ก่อเหตุ เพียงแค่ออกมาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านของตนเท่านั้น
นายจรัสพงษ์ อนุชาติบุตร อาสาสมัครกู้ภัยวชิรพยาบาล หนึ่งในผู้ที่ไล่ตาม บอกว่า รับแจ้งเหตุดังกล่าวช่วง 23.30 น. จึงนำกำลังเข้าไปช่วยสกัด แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุขับชนรถจักรยานยนต์ของตัวเองได้รับความเสียหาย ที่บริเวณแยกสะพานแดง ถนนพระราม 5
นายธีรศักดิ์ ศิลปกิจ อายุ 23 ปี พลเมืองดี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า รถเบนซ์คันดังกล่าวตั้งใจขับรถไล่ชนโดยไม่ยอมลงมาดูผู้บาดเจ็บและเจรจากับผู้เสียหาย มองว่าหากลงมาดูผู้บาดเจ็บและลงมาพูดคุย เหตุการณ์ก็อาจจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ ขณะนั้นจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหักพวงมาลัยรถหรูคันดังกล่าวให้พุ่งชนรถอีกคัน เพื่อไม่ให้ขับต่อไปได้ โดยนายธีรศักดิ์ถูกกระจกบาดได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ
สาวซิ่งเบนซ์ ขอโทษ อ้างเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์
ล่าสุดตำรวจคุมตัว น.ส.วิชาดา ไปตรวจร่างกายซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเมื่อคืนตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ น.ส.วิชาดา และสามี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม มาจากเรื่องที่ถูกคู่ค้าดำเนินคดีจนถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่สามารถนำเงินไปบริหารธุรกิจ ทั้งที่ผู้ก่อเหตุคือหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วฐานยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ แต่คู่ค้าก็ไม่ยอมแก้ต่างให้ อีกทั้งปัจจุบันหุ้นส่วนรายนี้ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด
ดำเนินคดี 4 ข้อหา สาวใหญ่ขับเบนซ์ชนแหลก
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นพบว่า มีอาการเครียดและตกใจ กลัวจะถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายจึงขับรถหลบหนี และเพื่อให้ปราศจากข้อสงสัยเรื่องการเสพยาเสพติด จึงให้ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนคดี ส่วนเรื่องที่ถูกคนพยายามสกัดหยุดรถและทำให้รถเสียหาย ต้องสอบถามผู้ต้องหาอีกครั้งว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ แต่ขณะนี้จะเน้นไปที่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องที่อื่น ต้องรอให้ตำรวจในพื้นที่ทำเรื่องมาขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจยังได้เรียกผู้ได้รับความเสียหายอีก 3-4 คน เข้าให้การเพื่อประกอบการดำเนินคดีเพิ่มเติมภายในวันนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 3 คน ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ตัวรถเสียหาย เหตุเกิดบริเวณถนนกำแพงเพชร 1 ขาออก มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว ผู้เสียหายอีกรายขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บ ตัวรถพังเสียหาย เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร จากถนนพหลโยธินขาเข้า มุ่งหน้ากำแพงเพชร และผู้เสียหายอีกรายขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบริเวณหน้าธนาคารทหารไทย ถนนพหลโยธิน
น.ส.พิชญา ลากูล เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท 9069 ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจ พร้อมตรวจสอบสภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า กำลังขับรถมุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว แขวงจตุจักร เขตจตุจักร เพื่อกลับหอพัก จู่ๆ รถคันนี้ก็พุ่งมาชนท้ายอย่างแรง จนท้ายรถบุบ กระจกหลังแตกละเอียดทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำช่วงขาและเข่า ยอมรับว่าโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเพิ่งเรียนจบและได้งานต่างจังหวัด ต้องใช้รถคันนี้ขนของไปทำงานในวันศุกร์นี้ แต่รถกลับมาถูกชน ประกันแจ้งว่าต้องใช้เวลาซ่อมอย่างน้อย 20 วัน แม้ผู้ก่อหตุจะขอโทษและอ้างว่าเครียดก็ตาม แต่ทุกคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง ไม่ควรทำแบบนี้. – สำนักข่าวไทย