ทางออกคืนความยุติธรรมคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 1 ส.ค. – มีการเสนอให้คืนความยุติธรรมในคดี “บอส อยู่วิทยา” ด้วยการส่งเรื่องที่ศาลยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา เพื่อความโปร่งใส ขณะที่อดีตอัยการสูงสุดเตรียมเอาผิด หากพบว่ามีการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ระหว่างที่คณะกรรมการทั้ง 3 ชุด กำลังเร่งตรวจสอบกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีทุกข้อหา “บอส อยู่วิทยา” เมาขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตแล้วหนี อาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “คดี (กระทิงแดง) ชนตำรวจ : นักกฎหมายเห็น สังคมรู้สึก คำถามที่กระบวนการยุติธรรมต้องตอบ” ตั้งข้อสงสัยในหลายเรื่อง เช่น ทำไมตำรวจไม่คัดค้านคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจน ทำไม ด.ต.วิเชียร ซึ่งถูกชนและลากไปไกลถึง 200 เมตร โดยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ถึงกลายไปเป็นผู้ประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียว ส่วนการกระทำของ “บอส” เป็นแค่เหตุสุดวิสัย อีกทั้งมีการไปแจ้งข้อกล่าวหาผู้ตายตอนไหน เพราะตามกฎหมาย การจะแจ้งข้อกล่าวหาใคร ต้องให้เขามีโอกาสโต้แย้งได้ด้วย ด.ต.วิเชียร ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วจึงกลายเป็นแพะในคดีนี้


อีกคำถามสำคัญ ทำไมอัยการซึ่งเคยมี “คำสั่งฟ้อง” ในคดีนี้ ถึงกลับคำสั่งเดิม มาเป็น “สั่งไม่ฟ้อง” เพียงเพราะเชื่อพยาน 2 คน ที่เพิ่งปรากฏตัวเมื่อปี 62 อ้างอยู่ในที่เกิดเหตุ “บอส” ไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 60 กม./ชม.

อาจารย์ปริญญา ย้ำแนวทางที่จะคืนความยุติธรรมในคดีนี้ได้ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องส่งเรื่องให้ศาลยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา เพื่อความโปร่งใส ชี้การขอให้ทบทวน “คำสั่งไม่ฟ้อง” ของอัยการ เป็นเรื่องที่ทำได้ เนื่องจากมีพยานหลักฐานใหม่ในหลายส่วน เช่น การหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นตัวกลางพิสูจน์หาข้อยุติเรื่องการใช้ความเร็วของ “บอส” ในคืนวันเกิดเหตุ เชิญค่ายรถรถเฟอร์รารี่มาพิสูจน์กันให้เห็นชัดๆ ว่า การใช้ความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้รถพังเสียหายได้ขนาดนี้หรือไม่ ที่สำคัญการตรวจพบสารโคเคนในร่างกายของ “บอส” ก็สามารถดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ได้ ซึ่งยังมีอายุความถึง 10 ปี


ขณะที่อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่อัยการสูงสุดจะไม่ทราบเรื่องที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีบอส เพราะตามระเบียบแล้วไม่ได้กำหนดว่าจะต้องรายงานให้อัยการสูงสุดทราบ แต่เมื่อมีคำสั่งแล้วจะต้องส่งเรื่องไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจ ทั้งนี้ในคดีอาญาจะให้น้ำหนักกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นอันดับแรก แต่ถ้าตรวจสอบแล้วข้อมูลไม่ตรงกับกองพิสูจน์หลักฐาน ก็ต้องไปให้น้ำหนักกับพยานบุคคล ขอให้ประชาชนอดใจรอ ฟังการชี้แจงจากคณะกรรมการชุดที่อัยการสูงสุดแต่งตั้ง หากพบว่าเป็นการใช้ดุลพินิจออกคำสั่งไม่ฟ้องบอส ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถเอาผิดได้เช่นกัน

ในวงเสวนาครั้งนี้ยังมีการร้องขอให้ศาลพิจารณาอย่าเพิ่งถอนหมายจับ “บอส อยู่วิทยา” เพราะยังอยู่ระหว่างการการตรวจสอบจากคณะกรรมการทั้ง 3 ชุด และยังมีข้อกังขาอีกมากมายที่จะต้องเร่งพิสูจน์ให้สาธารณชนคลายความสงสัย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน