ไขข้อข้องใจนิติวิทยาศาสตร์คดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 30 ก.ค. – อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุคดี “บอส อยู่วิทยา” ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบสืบสวนสอบสวนให้มีมาตรฐานและมีคุณภาพ พร้อมระบุแนวทางการสืบสวนสอบสวนต้องใช้ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เอกสาร และพยานบุคคล แต่ต้องได้มาอย่างมีระบบ รวมทั้งหน่วยงานรัฐต้องเป็นที่พึ่งประชาชนและฟังความรอบด้าน

ยังคงเป็นประเด็นสงสัยถึงความเร็วรถเฟอร์รารี่ที่นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ปี 2555 ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี เมื่อผู้ตรวจสอบความเร็วที่เคยให้การว่า “บอส” ขับรถด้วยความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หลังมีการร้องขอความเป็นธรรม กลับให้การใหม่ว่าคำนวณความเร็วรถเหลือเพียง 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


และยังปรากฏพยานบุคคลใหม่ 2 ปากในสำนวน ที่ระบุความเร็วของรถเฟอร์รารี่ในขณะนั้นว่าไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังทีมทนายของบอสยื่นขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ ของ สนช. จนเรื่องถึงอัยการสูงสุด

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการแนวทางการสืบสวนสอบสวนในคดีต่างๆ ต้องประกอบกันทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เอกสาร และพยานบุคคล สำหรับประเด็นความเร็วรถ แนวทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าหากเป็นการชนที่รถความเร็วไม่มาก และมีการเบรกอย่างแรง ผู้ถูกชนจะล้มลงและรถจะเคลื่อนทับ หากรถแล่นด้วยความเร็วไม่มากแล้วเบรกกะทันหัน คนถูกชนจะกระเด็นไปข้างหน้า แต่หากรถแล่นมาด้วยความเร็วสูง โดยไม่มีการเบรกหรือเบรกน้อย ลักษณะจะเป็นการชนเสยมาถูกระจกรถแล้วกระเด็นไปข้างหลัง ซึ่งพบว่ารถเฟอร์รารี่คันเกิดเหตุมีร่องรอยกระจกหน้ารถแตก


ในส่วนขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การสั่งคดี เนื่องจากตามกฎหมายบังคับว่าการชันสูตรศพต้องมีแพทย์นิติเวชในที่เกิดเหตุ แต่จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจที่เกิดเหตุหรือไม่ ให้เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน และจะส่งหลักฐานใดให้ห้องปฏิบัติการตรวจสอบหรือนำหลักฐานใดไปประกอบในสำนวนคดีก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนเช่นกัน จึงมองว่าเป็นการไม่รอบคอบในการใช้ดุลพินิจ และมองว่านี่เป็นจุดสำคัญที่จะต้องมีการปฏิรูปการสืบสวนสอบสวน

มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมทีมกฎหมายของบอส เลือกที่จะไปร้องขอความเป็นธรรมในหน่วยงานที่ไม่ได้เชี่ยวชาญโดยตรง และล่าสุดเมื่อหน่วยงานที่รับเรื่องมีการแถลงชี้แจง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่ามีความไม่สบายใจในฐานะที่ทำหน้าที่ ส.ว. เพราะเห็นว่าหน่วยงานรัฐความเป็นที่พึ่งสืบหาความเป็นจริงที่ครบถ้วนจากทุกฝ่าย ไม่ใช่รับฟังเฉพาะฝ่ายที่มาร้องเท่านั้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง