ความมืดเทาในศึกชิงบัลลังก์ “สีกากี”

กทม. 27 ก.ย.- ตำรวจนักวิชาการ ชี้ ค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” เตะตัดขาลุ้นชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. สะท้อนการเมืองในองค์กรตำรวจฝังรากลึกยาวนานกว่า 90 ปี ยกเป็นวาระแห่งชาติ “สะสางความมืดเทาในสีกากี”


เป็นกลายข่าวร้อนที่ดับทุกอุณหภูมิข่าวในช่วงนี้ หลังตำรวจไซเบอร์นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อขอตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา หลังพบหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ สังคมจับตา เพราะมีชื่อของตำรวจ 8 นาย ทั้งสัญญาบัตรและชั้นประทวนรวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา “บิ๊กโจ๊ก”

สังคมตั้งคำถามเหตุใดจึงเปิดปฏิบัติการฟ้าผ่า!! บุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งเป็น 1 ใน 4 แคนดิเดตตัวเต็ง ลุ้นตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ก่อนจะมีการประชุม คณะข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.เพียง 2 วัน คือวันที่ 27 กันยายน 2566


กองบรรณาธิการวิทยุ สำนักข่าวไทย (TNA Radio)ไขข้อข้องใจจากปฏิบัติการครั้งนี้เกี่ยวข้องกับวาระการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ จาก “ตำรวจนักวิชาการ” รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล นักอาชญวิทยา ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญวิทยา และการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต ได้รับคำตอบว่า เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ องค์กรตำรวจแน่นอน

การตรวจค้นสามารถทำได้บนหลักพื้นฐานของการมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน จนนำไปสู่การขอหมายค้นหรือหมายจับจากศาล แต่หาก ต้องการจับบุคคลตามหมายจับของศาลก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ บังคับของศาลฎีกาด้วย ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย เช่น การเขียนอธิบายในคำขอว่า มีแนวทางการสืบสวนอย่างไร บ้านที่จะไปตรวจค้นเป็นบ้านใคร ใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ใครเป็นผู้อยู่อาศัย หรือ เป็นผู้เช่า หากบ้านหลังนั้นไม่มีเลขที่ หรือ เลขที่บ้านไม่ชัดเจน ต้องแนบแผนที่แนบประกอบคำร้องด้วย โดยจะต้องมีหลักฐานชัดเจนแถลงต่อศาล

กรณีที่ชุดจับกุมอ้างว่าไม่ทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวว่าตามหลักปฏิบัติการตรวจค้นจะต้องรู้ข้อมูลและแนวทาง การสืบสวนว่าบุคคลที่ต้องการจับเป็นใคร เคยก่อเหตุอะไร เช่น เคยก่อเหตุอุกฉกรรจ์คดีร้ายแรงหรือไม่ มีพฤติกรรมการ ก่อเหตุในอดีตเป็นอย่างไร เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะต้อง เตรียมการรับมืออย่างไรหากมีการต่อสู้กลับ และต้องประเมินว่า ผู้ต้องหามีอาวุธหรือไม่ เพื่อเตรียมเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมรับมือ เช่น หน่วยคอมมานโด เป็นต้น


ซึ่งในกรณีการตรวจค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นถึง รอง ผบ.ตร. ตนไม่แน่ใจว่ามีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพียงใด แต่มองว่า ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่ทำงานเป็นมืออาชีพต้องทราบแน่นอน เพราะปกติฐานข้อมูลตำรวจจะเชื่อมกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ หากพบว่าข้อมูลไม่ตรง ต้องตรวจสอบต่อว่าใครเป็นคนอาศัย อยู่บ้านหลังนั้น สิ่งนี้เรียกว่า “แนวทางการสืบสวน”

เมื่อถามว่าจากการบุกค้นบ้านครั้งนี้เป็นการดับฝัน ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชวดเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 14 หรือไม่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ ให้ความเห็นว่า ต้องไปดูแนวทางการพิจารณาของ ก.ตร.ว่าดูจากผลงานที่ผ่านมาหรือไม่ โดยตนมองว่าหากที่ผ่านมาข้าราชการคนนั้นทำความดีเป็นที่ ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน การถูกค้นบ้านเพียง 1 ครั้ง อาจถูกมองข้ามก็เป็นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้พิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตาม หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถเคลียร์ตัวเอง ได้ว่าโปร่งใส แม้จะผ่านพ้นการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไปแล้ว และไม่ได้รับตำแหน่งเพราะผลกระทบจากเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับได้ เพราะยังเหลืออายุราชการ อีกหลายปี

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากย้อนไปในอดีต ประเด็นการเมืองในองค์กรตำรวจมีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัย เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 จากนั้นเป็นต้นมาการเมือง อยู่คู่กับตำรวจมาโดยตลอด ที่สำคัญคือการเมืองใช้ตำรวจ มาคงไว้ซึ่งอำนาจ

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นประธานการประชุม ก.ตร.ด้วย ต้องเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการมอบนโยบายว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาล แต่ละยุคสมัยมีแนวทางแก้ปัญหาแตกต่างกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่า การแก้ปัญหาองค์กรตำรวจที่ถูกจุด และจะทำให้ประสบความสำเร็จ ได้ ต้องอาศัยนโยบายทางการเมืองที่ชัดเจน และมีเจตจำนง ทางการเมืองที่แน่วแน่ ขณะเดียวกันต้องอาศัยการขับเคลื่อน จากองค์กรตำรวจด้วย ที่สำคัญประชาชนต้องสนับสนุนให้เกิด การเปลี่ยนแปลง จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้เสนอเป็นวาระแห่งชาติ “สะสางความมืดเทาขององค์กรตำรวจ” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย