แนะแก้หนี้ครู เจรจาลดดอกเบี้ย ไม่ลด ไม่หักจากเงินเดือน

กทม. 23 ก.ย.- สหกรณ์ เสนอรัฐบาลแก้หนี้ครู เจรจาสถาบันการเงินขอลดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 4.5 กำหนดเพดานกู้ได้ไม่เกิน70% ของรายได้ ไม่ลดดอก ระบบไม่หักเงินเดือนจ่าย ไล่บี้กันเอง


นายณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี เปิดเผยกับกองบรรณาธิการข่าววิทยุ สำนักข่าวไทย ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี ดูแลเงิน 14,000 กว่าล้านบาท สหกรณ์เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของครู ร้อยละ 64 ของหนี้ทั้งหมด คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 5.6 ธนาคารออมสิน มีครูเป็นหนี้อยู่ร้อยละ 28 คิดดอกเบี้ยร้อยละ 6.9 ธนาคารกรุงไทย มีครูเป็นหนี้ ร้อยละ 4 คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 7.12 และ ธอส. มีครูเป็นหนี้ ร้อยละ 4 คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 6.4

สำหรับหนี้ครูนั้นต้องแยกประเภท เช่น หนี้จากการกู้ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน หนี้จากการกู้ยืมเรียน กยศ. กู้เพื่อดูแลครอบครัว นอกจากนี้ยังมีหนี้ที่ไม่ได้เกิดจากครู คือ หนี้ประเภทที่เกิดจากการค้ำประกัน เช่นค้ำประกันกู้ซื้อรถไถให้ชาวบ้าน แต่หนี้ที่มีปัญหาคือหนี้ของคนไม่วินัยการเงิน การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เล่นการพนัน ลอตเตอรี่ และหนี้นอกระบบ สิ่งที่ขอรัฐช่วยเหลือ คือ ครูที่เป็นหนี้จากการไม่มีวินัยทางการเงิน ซึ่งมีกว่า 4 แสนราย


ข้อเสนอแก้ปัญหาหนี้ครู ได้แก่

  1. รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ต้องเป็นเจ้าภาพรวมหนี้ครู ให้ผ่อนจ่ายจากสถาบันการเงินเดียว
  2. ทำข้อตกลงกับสถาบันการเงิน สหกรณ์ต่างๆ ให้กำหนดเพดานดอกเบี้ยการกู้สินเชื่อสวัสดิการครู ให้ไม่เกิน 4.5% ไม่สูงจนสร้างภาระจนครูเกินไป
  3. กำหนดเพดานความสามารถกู้ ไม่เกิน 70% ของรายได้ เพื่อให้อีก 30% เพียงพอต่อค่ากินค่าอยู่
  4. กระทรวงศึกษาธิการ ต้องเรียกสถาบันการเงิน ขอลดดอกเบี้ยในกลุ่มที่มีหนี้สินเกิน 70%ของเงินเดือน ใช้ข้อเสนอหากยอมลดดอกเบี้ย จะดำเนินการหักเงินเดือนผ่อนชำระเงินกู้ตามเดิม แต่หากไม่ยอมลดดอกเบี้ย ครูจะต้องนำเงินส่งสถาบันการเงินเอง โดยไม่หักผ่านเงินเดือน ให้ธนาคารไปไล่ทวงกับลูกหนี้เอง

นายณรินทร์ ชำนาญดู ระบุว่า หากรัฐบาลและกระทรวงศีกษาธิการ ดำเนินการตามข้อเสนอนนี้ เชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้ครู ลดการเพิ่มหนี้ และครูสามารถมีกำลังในการชำระหนี้ได้มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย