ฝุ่น PM 2.5 พุ่ง จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน

กรุงเทพฯ 13 เม.ย.-กรมควบคุมมลพิษ รายงานฝุ่น PM2.5 ยังคงเกินมาตรฐาน 21 จังหวัด หลายพื้นที่ในภาคเหนือมีการสะสมของฝุ่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ส่วนอีสานเริ่มดีขึ้น เหลือเพียง จ.หนองคาย และอุดรธานี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 13 เมษายน 2565 ซึ่งยังเกินค่ามาตรฐาน 21 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.ลำปาง จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และจ.อุบลราชธานี


ส่วนผลการตรวจวัดรายภาคพบว่า

  • ภาคเหนือตรวจวัดได้ 32 – 94 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตรวจวัดได้ 46 – 111 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคกลางและตะวันตกตรวจวัดได้ 19 – 56 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออกตรวจวัดได้ 28 – 46 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคใต้ตรวจวัดได้ 14 – 31 มคก./ลบ.ม.
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 31 – 71 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้หลายพื้นที่ในภาคเหนือมีค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยเฉพาะ จ. เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอนซึ่งอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่คือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 94 มคก./ลบ.ม. ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเมื่อวานนี้ มีการสะสมของฝุ่น PM2.5 มาก วันนี้สถานการณ์ดีขึ้น โดยยังพบพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 3 จังหวัดคือ หนองคาย 211 มคก./ลบ.ม. และอุดรธานี 208 มคก./ลบ.ม. และอุบลราชธานี 194 208 มคก./ลบ.ม.


สำหรับผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ล่วงหน้าพื้นที่กรุงเทพปริมณฑลช่วงวันที่ 14 – 20 เม.ย. จะดีขึ้นตามลำดับและเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดและไม่มีสภาพอากาศนิ่งในพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการระบายฝุ่น แต่ 17 จังหวัดภาคเหนือช่วงวันที่ 18-20 เม.ย. 65 ควรเฝ้าระวัง หากจุดความร้อนมีจำนวนมากอาจเกิดสถานการณ์ที่ค่าฝุ่นละอองขึ้นสูงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและตอนล่างฝั่งตะวันออก รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเกิดสภาพอากาศนิ่งและการยกตัวของอากาศที่ไม่ดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้