ระยอง 30 ม.ค. – อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุ สัตวแพทย์ผ่าชันสูตรซากเต่าและโลมา ในพื้นที่เกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง พบตายหลายวันแล้ว ซากเน่าจนไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ แต่ไม่พบคราบน้ำมันในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า มอบหมายให้สัตวแพทย์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งชันสูตรซากเต่าและโลมา ซึ่งพบในพื้นที่การเกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ในวันนี้ (30 ม.ค.) ทำให้มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า เป็นผลจากเหตุน้ำมันดิบรั่วหรือไม่
ล่าสุด สัตว์แพทย์รายงานผลผ่าชันสูตร ว่า ซากโลมาที่พบเป็นโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิก (indo-pacific bottlenose dolphin: Tursiops aduncus) ขนาดความยาวซากที่เหลืออยู่ 2.35 เมตร สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5) จากสภาพซาก โลมาตัวนี้ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-10 วัน จากการตรวจสอบพบว่ากล้ามเนื้อและผิวหนังหลุดล่อน อวัยวะหลายส่วนหลุดหายไปเนื่องจากผนังช่องท้องเปิดออกจากการเน่าตามธรรมชาติ ตลอดทางเดินหายใจและทางเดินอาหารไม่พบสิ่งแปลกปลอมและคราบน้ำมัน แต่เนื่องจากสภาพเน่ามากจึงไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนได้
สำหรับ ซากเต่าทะเลที่พบเป็นเต่ากระ (Hawksbill turtle: Eretmochelys imbricata) ขนาดกระดองกว้าง 74 เซนติเมตร กว้าง 83 เซนติเมตร เพศเมีย อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5) เป็นเต่าที่เกิดและโตในธรรมชาติ ไม่พบหมายเลขไมโครชิพและแถบเหล็กระบุตัวตน จากการตรวจสอบสภาพซาก เต่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน อีกทั้งมีไขมันสะสมตามช่องท้องค่อนข้างน้อย ซึ่งบ่งบอกการป่วยที่เรื้อรัง ตลอดทางเดินอาหารพบอาหารตามธรรมชาติเล็กน้อย ได้แก่ ปะการังอ่อน เปลือกหอย ไฮดรอย เป็นต้น พบขยะทะเลจำนวนหนึ่ง เช่น ถุงพลาสติก เศษเชือก เศษกระสอบ หนังยางรัดแกง แต่ไม่พบการอักเสบของทางเดินอาหาร ไม่พบการปนเปื้อนหรือคราบน้ำมันทั้งภายในและภายนอกของเต่าทะเล ทั้งนี้ ซากเน่ามากทำให้ไม่สามารถสรุปหาสาเหตุการตายได้ .-สำนักข่าวไทย