เพชรบุรี 15 ม.ค. – กรมอุทยานฯ รักษาและเฝ้าติดตามอาการ “เจ้าด้วน”ช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับช้างตัวอื่น เป็นแผลถูกงาแทง ล่าสุดอาการดีขึ้นซึ่งเจ้าหน้าที่ผลักดันเข้าป่าแล้ว
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรีกล่าวว่า ได้ติดตามอาการ “เจ้าด้วน” ช้างสีดอแห่งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับทีมสัตวแพทย์จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นำโดยนายภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ และเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทยลงพื้นที่เพื่อวางแผนการรักษา
“เจ้าด้วน” เป็นช้างสีดอเพศผู้ อายุประมาณ 50-60 ปี หนักกว่า 5 ตัน ตรวจสอบพบบาดแผลจากการชนกับช้าง ซึ่งเป็นรอยงาแทงที่ขาทั้งซ้ายและขวาหลายแห่ง รวมถึงมีรอยคล้ายรูกระสุนปืนเล็กๆ บริเวณโคนหางและสะโพกซ้าย 5 แผล ทีมสัตวแพทย์ที่ได้ใช้ยาควบคุมอาการเคลื่อนไหวเพื่อให้สามารถเข้าทำงานได้ จากนั้นจึงเปิดเส้นเลือดให้สารน้ำและเก็บเลือดส่งตรวจ
ต่อมาเปิดแผลระบายหนองออก พบฝีหนองเป็นจำนวนมาก จึงล้างแผล ทายาปฏิชีวนะ ตามด้วยยาผงกันแมลง สัตวแพทย์ให้น้ำเกลือรวม 5 ขวด แล้วให้ยาแก้ฤทธิ์ยาซึม ใช้เวลารักษา 2 ชั่วโมง 54 นาที จึงมอบให้ชุดเจ้าหน้าที่ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
สำหรับรายงานผลเลือดบ่งบอกว่า เกิดโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวพบระดับสูง แต่ยังไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน และค่าตับ ค่าไตยังอยู่เกณฑ์ปกติ และกำลังรอผลตรวจโรคที่สำคัญในช้างที่เก็บส่งตรวจไปที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
วันที่ 12 มกราคม ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่นำยาบำรุงเลือด 50 เม็ดและวิตามินใส่เข้าไปใน กล้วยเพื่อให้ช้างป่ากิน ผลปรากฏว่า “เจ้าด้วน” นำเข้าปาก แต่คายออก วันที่ 13 มกราคม “เจ้าด้วน” ออกหากินอยู่หน้าอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำกินละแวกชุมชน บาดแผลบางจุดเริ่มแห้ง
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) เข้าพื้นที่ติดตามช้างป่าสีดอ (ด้วน) พบว่า มีอาการดีขึ้น เดินกินหญ้าเป็นปกติ แผลไม่บวม และลงเล่นน้ำอยู่บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำใกล้ละแวกชุมชน ซึ่งเกรงว่า อาจเกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ หลังจากที่ “เจ้าด้วน” ขึ้นจากน้ำ เจ้าหน้าที่จึงผลักดันเข้าป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน.-สำนักข่าวไทย