กาญจนบุรี 14 ม.ค. – กรมอุทยานฯ และตำรวจร่วมกันนำผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีเนื่องจากเข้าไปล่าเสือโคร่งในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนพบชายทั้ง 5 คนอยู่กับซากเสือและอาวุธปืน รับสารภาพว่า ยิงเสือเพราะเสือกินวัว-ควายที่เลี้ยง
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาคดีล่าเสือโคร่งในเขตเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีได้แก่ นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ นายศุภชัย เจริญทรัพย์ นายจอแห่ง พนารักษ์ นายกูกือ ยินดี นายโชเอ ไม่มีชื่อสกุล โดยมีของกลาง ประกอบด้วยซากเสือโคร่ง 2 ซาก อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ติดกล้องเล็ง 1 กระบอก อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปีนแก๊ป) 6 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 5 ปลอก โดยก่อเหตุบริเวณป่า หมู่บ้านปีล๊อกคี่ ม.4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ม.ค. เวลา19.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้ตรวจยึดซากเสือโคร่งและอาวุธปีนดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปีล๊อก เพื่อให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวานนี้ (13 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ยิงเสือโคร่งมี 5 คน โดยมีภูมิลำเนาอยู่ในหมู่บ้านปิล็อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จึงได้ร่วมกันเดินทางไปติดตามหาตัวเพื่อจับกุม
สำหรับผู้ต้องหาที่ 1-4 ให้การรับสารภาพว่าพวกตนได้กระทำผิดจริงโดยอ้างว่า สาเหตุในการยิงเสือโคร่งครั้งนี้เนื่องจาก มีอาชีพเลี้ยงวัว-ควายในหมู่บ้านปิล็อกคี่ แต่เนื่องจากในช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีน้ำท่วมสูง จึงนำวัว-ควายไปเลี้ยงในป่าเขา และที่ผ่านมา วัว-ควายถูกเสือกินไปแล้วกว่า 60 ตัว จึงนำอาวุธปีนที่พวกตนมีอยู่นำติดตัวไปเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยง ต่อมายิงเสือ 2 ตัว แล้วถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิตรวจพบ พวกตนตกใจจึงวิ่งหลบหนีไป ส่วนนายโชเอให้การว่า ได้เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติจริง แต่ไม่ได้ร่วมยิงเสือกับผู้อื่นแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่กล่าวโทษในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน ร่วมกันหาเก็บของป่า ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปเพื่อให้สัตว์ป่าได้รับอันตราย ร่วมกันล่าสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจะดำเนินคดีถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย