กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยในระยะนี้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 หนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือมีความเร็ว 10-20 กม./ชม. มีกำลังอ่อนลงกว่าวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เพิ่มขึ้น
จากการคาดหมายสภาวะอากาศและผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 3-9กุมภาพันธ์ ภาคเหนือตอนบนจะมีผลกระทบค่อนข้างมากตั้งแต่วันที่ 3-6 ภาคตะวันออกจะมีผลกระทบค่อนข้างมากวันที่ 3-4 จากนั้นจะบรรเทาลง แล้วสะสมมากอีกครั้งวันที่ 9 สำหรับภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้มีผลกระทบค่อนข้างมาก โดยวันพรุ่งนี้จะบรรเทาลง แล้วสะสมเพิ่มขึ้นอีกครั้งวันที่ 8-9 นี้
ด้านศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 07:00 น. ว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐาน PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) 19 พื้นที่คือ
กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ชลบุรี และระยอง หากแยกเป็นรายภาคปรากฏว่า ภาคเหนือเกินค่ามาตรฐาน 10 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 17 – 68 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16 – 38 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 42 – 62 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 47 – 65 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11 – 29 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้พื้นที่ที่มีฝุ่นละอองสะสมมากที่สุดคือ อ.เมือง จ.พิษณุโลก สูง 68 มคก./ลบ.ม.
ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลการตรวจวัดโดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ตรวจวัดได้ 39 – 80 มคก./ลบ.ม. โดยเขตที่เกินค่ามาตรฐานได้แก่ ธนบุรี บางนา ยานนาวา ดอนเมือง คันนายาว ห้วยขวาง คลองเตย บางซื่อ หลักสี่ สะพานสูง บึงกุ่ม คลองสามวา จอมทอง และบางแค โดยอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทั่วไป เฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษได้แก่ เด็น คนชรา หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ . – สำนักข่าวไทย