ทส. 10 ส.ค. 63 – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ สั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่งรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงถูกเรียกรับเงินแลกการผ่านงบประมาณ
จากกรณีนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แฉกลางวงประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในชุดคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ว่ามีอนุกรรมาธิการฯบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวฃทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เนื่องจากอยู่ในความสนใจของสังคม
ทั้งนี้ได้สั่งการให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทำหนังสือราชการเรื่องลับ รายงานข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่งมาให้ตนเองในฐานะปลัดกระทรวงในวันนี้ (10ส.ค.63) ซึ่งที่ต้องเป็นหนังสือรายงานลับนั่น เนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม จึงต้องมีการตรวจสอบโดยเฉพาะ จากนั่นเมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งหากมีคลิปเสียงก็จะอยู่ในการตรวจสอบด้วย หากพบว่าส่วนใดมีความผิดปกติไม่ชอบมาพากล จะส่งรายงานข้อมูลไปยังหน่วยงานนั้น ในที่นี่จะส่งข้อมูลไปยัง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้สังคมเกิดความกระจ่าง รวมทั้งหาก ป.ป.ช. ต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมกระทรวง ทส. ก็ยินดี เพื่อความโปร่งใสให้กับข้าราชการประจำ และผู้ที่ถูกตรวจสอบด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งอธิบดี ถึงปลัดกระทรวง ยังไม่เคยเจอปัญหา หรือกรณีเรียกรับเงินเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งในอต่ละคณะอนุกรรมาธิการส่วนใหญ่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นความเข้าใจผิดหรือสับสนในข้อมูลการสื่อสารของทั้งฝั่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กว่า 30,000 ล้านบาทเศษ ถูกตัดงบออกไปประมาน 600 ล้านบาท ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลข้ออนุมัติงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2563 ใช้งบได้ตามเป้าไปแล้วกว่าร้อยละ70
ส่วนคำถามที่ว่ากรณีนี้หากตรวจสอบแล้วไม่พบข้อเท็จจริง จะกระทบต่อตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาาลหรือไม่ ต้องพิจารณารอบด้านอีกครั้งหากไม่พบว่าเป็นความผิด ก็ไม่มีเหตุจะต้องลงโทษแต่อย่างใด พร้อมกำชับให้ข้าราชการ พนักงานกระทรวงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีการผ่อนเกียร์ว่าง เพื่อให้ประชาชนและประเทศได้รับประโยชน์มากที่สุด .-สำนักข่าวไทย