พังงา 18 มิ.ย. – กรมอุทยานฯ เผยความคืบหน้าปฏิบัติการกู้เรือสินค้าเมียนมาชนแนวปะการังที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ยกท้ายเรือได้แล้ว เดินหน้าต่อเต็มกำลังเพื่อยกส่วนหัวให้สมดุล เมื่อขนย้ายเรือออกได้ จะเร่งฟื้นฟูแนวปะการัง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ถึงความคืบหน้าของปฏิบัติการกู้เรือสินค้าสัญชาติเมียนมา “MV AYAR LINN” ซึ่งประสบเหตุเกยตื้นบนแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยล่าสุดสามารถยกตัวส่วนท้ายเรือขึ้นจากแนวปะการังได้ประมาณ 1 เมตร
การปฏิบัติการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 (ภูเก็ต) หน่วยดำน้ำเฉพาะกิจ และชุมชนชาวไทยมอแกน ซึ่งร่วมกันดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกเรือออกจากแนวปะการังให้เร็วที่สุด และฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด
สำหรับผลการปฏิบัติงานวานนี้มีความคืบหน้าหลายประการ ได้แก่
– การติดตั้งถังน้ำมันเพื่อเพิ่มแรงยกจำนวนรวมทั้งสิ้น 150 ถัง
– ติดตั้งถุงลม (Life bag) เพิ่มเติมอีก 2 ตัน ส่งผลให้แรงยกโดยรวมเพิ่มเป็น 43 ตัน
– ขนย้ายกระสอบปูนซีเมนต์ออกจากภายในเรือได้แล้ว 2,400 กระสอบ เหลือค้างอยู่ภายในเรืออีกเพียง 600 กระสอบ
- สำรวจจุดจอดเรือที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า พร้อมเตรียมเรือลากจูงสำหรับเคลื่อนย้ายทันทีที่เรือลอยตัวเต็มที่
แม้ขณะนี้ช่วงหัวเรือจะยังไม่สามารถยกตัวขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ แต่พบว่ามีการขยับตัวเล็กน้อย ซึ่งสาเหตุสำคัญยังคงเป็นเพราะแรงยกจากถังน้ำมันที่ยังไม่เพียงพอ และน้ำหนักจากกระสอบปูนซีเมนต์ที่ตกค้างอยู่ภายในลำเรือ
สำหรับแผนการในวันนี้ (18 มิถุนายน 2568) ทีมปฏิบัติการจะเร่งขนย้ายกระสอบปูนซีเมนต์ที่เหลือออกจากลำเรือให้แล้วเสร็จทั้งหมด พร้อมติดตั้งถังน้ำมันเพิ่มเติมอีก 100 ถัง เพื่อเพิ่มแรงยกในส่วนหัวเรือให้เพียงพอต่อการลอยตัว และเมื่อสามารถยกเรือได้อย่างสมดุลทั้งลำแล้ว จะเคลื่อนย้ายเรือออกจากบริเวณแนวปะการังไปยังจุดพักที่ปลอดภัยทันที
การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญในการลดผลกระทบต่อแนวปะการังให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน นักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญ และประชาชนในพื้นที่ ที่มีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างแท้จริง
นายอรรถพลย้ำว่า แม้การกู้เรือจะเป็นงานที่ท้าทายทั้งในด้านเทคนิค เวลา และสภาพแวดล้อมทางทะเล แต่ความตั้งใจร่วมกันของทุกภาคส่วน จะทำให้เราสามารถรักษาความสมบูรณ์ของแนวปะการังและระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ไว้ได้อย่างยั่งยืน. 512 – สำนักข่าวไทย