กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงาน พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวังการปนเปื้อนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย และมอบหมายกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลักในการสื่อสารและชี้แจงต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯ ได้เพิ่มระดับความเข้มข้นในการติดตามและแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในลำน้ำสายสำคัญของภาคเหนือ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการในทุกระดับ ทั้งในเชิงป้องกัน ฟื้นฟู และสื่อสารความเข้าใจสู่ประชาชน โดยมาตรการเร่งด่วนที่ปลัดกระทรวงฯ สั่งการเพิ่มเติม ได้แก่ 1. จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังการปนเปื้อนแม่น้ำกก–แม่น้ำสาย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย พร้อมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วประจำการในพื้นที่ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน 2. เร่งดำเนินการสร้างฝายดักตะกอน ในลำน้ำที่ไหลเข้าสู่เขตแดนไทย โดยมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำรับผิดชอบการออกแบบและก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการแพร่กระจายของสารหนูและโลหะหนัก
- มอบหมายกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลักในการสื่อสารและชี้แจงข่าวสาร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่ และลดความวิตกกังวล และ 4. กำชับผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ลงพื้นที่ติดตามผล การดำเนินงานตามมาตรการที่กำหนดอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าต่อกระทรวงฯ อย่างสม่ำเสมอ
นายจตุพร ย้ำว่า ปัญหาการปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง เป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยกระทรวงฯ พร้อมสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงานในพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่า ภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจในการดูแลความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง. -512 – สำนักข่าวไทย


