กรุงเทพฯ 3 มิ.ย. – รมว.ทส. ย้ำติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขงต่อเนื่อง สั่งปลัดกระทรวงประชุมเร่งรัดมาตรการเฉพาะหน้าทำระบบดักตะกอนในวันพรุ่งนี้ พร้อมย้ำว่า การแก้ปัญหาต้นทางกำลังดำเนินการควบคู่กันไป แต่ต้องใช้กระบวนการระหว่างประเทศที่มีขั้นตอน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่ตรวจพบค่าสารหนูเกินกว่าค่ามาตรฐานว่า ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และในวันที่ 4 มิ.ย. ได้มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามแนวทางของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามข้อห่วงใยของประชาชนในพื้นที่
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารพิษครั้งนี้ไม่สามารถดำเนินการที่ต้นเหตุได้โดยทันที เนื่องจากแหล่งกำเนิดมลพิษอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน การดำเนินการต้องใช้กระบวนการหารือระหว่างประเทศอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยต้องอาศัยทั้งเวลาและความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
ในระหว่างนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้วางมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อคุ้มครองประชาชน โดยมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำเร่งออกแบบระบบดักตะกอนเพื่อลดการกระจายของสารปนเปื้อน ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษเพิ่มความถี่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำและตะกอนในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง เพื่อให้สามารถติดตามค่าการปนเปื้อนอย่างใกล้ชิด
จากรายงานผลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พบว่า แม่น้ำกกและแม่น้ำสายยังมีค่าสารหนูเกินมาตรฐาน ทั้งในน้ำผิวดินและตะกอนดิน ยกเว้นช่วงที่น้ำไหลผ่านฝายเชียงราย ซึ่งค่าปนเปื้อนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนแม่น้ำลาว แม่น้ำกรณ์ และแม่น้ำสรวย ยังคงมีคุณภาพน้ำในเกณฑ์ดี แม้ตรวจพบสารหนูในตะกอนดินเกินมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน แต่ยังไม่กระทบต่อสุขภาพมนุษย์
รมว.ทส. ฝากถึงประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ให้ติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในลำน้ำที่ตรวจพบการปนเปื้อน พร้อมย้ำว่าทุกหน่วยงานกำลังเร่งคลี่คลายปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด.-512-สำนักข่าวไทย