ปราจีนบุรี 19 มี.ค. - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ จับกุมชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานฯ หลังปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ป่าเขาบุตาโสม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ต่อเนื่อง 2 วัน ได้ตัวผู้กระทำผิด 6 ราย
นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 พร้อมด้วยนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายวัฒนะ โรจนเกษตร ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนายวัชระ ปรีทุ่ง รักษาการผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ฝ่ายปกครอง กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลบุฝ้าย และตำบลคำโตนด อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 13.25 น. เมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนส่วนกลางที่ 2 และ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าฯ ขญ.10 ออกตรวจปราบปรามในบริเวณป่าเขาบุตาโสม พบร่องรอยการตัดถางทาง รอยเท้า และต้นไม้พะยูงที่ถูกโค่น จึงติดตามจนได้ยินเสียงเลื่อยและทำการปิดล้อม สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชา 2 ราย ได้แก่ นายพาด (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และนายคุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมของกลางเป็นไม้พะยูง 3 แผ่นเหลี่ยม ปริมาตรรวม 0.150 ลูกบาศก์เมตร และอุปกรณ์ก่อเหตุอีก 11 รายการ


จากการสืบสวนทราบว่า ยังมีผู้ต้องหาอีกประมาณ 30 รายหลบหนีไป นายยศวัฒน์จึงสั่งการสนธิกำลังเพิ่มเติมจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่ารวม 40 นายลาดตระเวนติดตาม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 รายในเย็นวันที่ 17 มีนาคม และอีก 3 รายในเช้าวันที่ 18 มีนาคม รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 6 ราย
สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้การสั่งการของนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและนายปพนศักดิ์ ขันติชัยมงคล นายอำเภอประจันตคาม ที่ให้ดำเนินการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าโดยเฉียบขาด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม เพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังคงติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-512-สำนักข่าวไทย