ปฏิบัติการขนย้ายช้างกลับป่าเขาอ่างฤาไนสำเร็จ

ปราจีนบุรี 3 ม.ค. – กรมอุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย จับย้ายช้างป่าเกเรที่ออกมารบกวนประชาชนในอำเภอกบินทร์บุรี กลับเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยปฏิบัติการตลอดทั้งคืน จนภารกิจลุล่วงก่อนรุ่งสาง โดยยังคงจัดชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าคอยเฝ้าระวังช้างโขลงออกมากินพืชผลของราษฎรอย่างต่อเนื่อง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้บัญชาการเหตุการณ์จับย้ายช้างที่ซึ่งมีศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่วัดคลองตามั่น ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างที่ออกนอกป่ามาทำร้ายจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงทำลายพืชผลของประชาชน โดยมีนายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา (สบอ.2) และนายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สบอ.1) ปราจีนบุรี พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมวางแผนปฏิบัติการ

กรมอุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย ประกอบด้วย ทีมสัตวแพทย์และสัตวบาล 11 นาย ทีมวิเคราะห์สำรวจพื้นที่ และทีมชักลากขาช้าง 100 นาย จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 และ 2 นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่ได้แก่ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโปร่งสะเดา ร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย


การปฏิบัติการเริ่มขึ้นตอนกลางคืนตามแผนการดำเนินการที่วางไว้ 4 ขั้นตอน เริ่มจากการสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาและระบุตัวช้างป่า จากนั้นทีมสัตวแพทย์จะวางยาซึมช้าง แล้วให้ทีมชักลากเข้าชักลากขาช้าง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งที่คอยช่วยเหลือในการใช้แขนและบุ้งกี๋ของรถแบ็กโฮคอยประคองช้างขึ้นรถบรรทุก จากนั้นจะขนย้ายไปปล่อยในป่าลึกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยปฏิบัติการตลอดคืนและภารกิจลุล่วงในเวลา 05.15 น. ช้างฟื้นตัวจากยาซึมดีและปลอดภัย

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จาก สบอ. 1 และ สบอ. 2 รวม 100 นาย จัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าที่ออกมาทำลายพืชผลของราษฎรนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ให้กลับเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเพื่อไม่ให้ช้างออกมาเพิ่มเติม

นอกจากนั้นประสานผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้พื้นที่ที่มีการมีปัญหาเกี่ยวกับช้างป่าสามารถเผาไร่อ้อยได้เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกช้างทำร้าย ซึ่งจะอนุญาตให้เผาเฉพาะแปลงที่รถตัดเข้าไม่ได้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะมอบหมายให้นายอำเภอมาทำความเข้าใจกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ก่อนดำเนินการ ซึ่งจะมีการชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังและควบคุมให้ไฟอยู่ในวงจำกัด


ความพยายามที่จะผลักดันช้างกลับเข้าป่าอนุรักษ์ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายวัน หลังจากมีชาวบ้านถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตกลางไร่อ้อยช่วงกลางเดือนธันวาคม โดยกลุ่มช้างป่าที่มีกว่า 40 ตัว หลบพักอาศัยบริเวณป่าสะเดาซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 700-800 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามทั้งด้วยการเดินสะกดรอยตีนช้างและใช้โดรนบินตรวจหาตัวช้างในป่าเพื่อผลักดันกลับเข้าเขตป่าอนุรักษ์ ช้างป่าที่มาหลบบริเวณป่าสะเดาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งมีกว่า 20 ตัวและอีกกลุ่มกว่า 10 ตัว เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังผลักดัน จะมีบางตัวแตกฝูงออกไป ช้างกลุ่มใหญ่จะเดินวกไปวนมาเพื่อกลับมาหลบที่ป่าสะเดาเช่นเดิมจึงไม่สามารถผลักดันให้มุ่งหน้าไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ บางคืนมีช้างออกจากป่ามาสมทบทำให้จำนวนช้างแต่ละกลุ่มเพิ่มขึ้นอีก ตลอดจนยังมีอุปสรรคคือ ช้างปรับตัวไม่กลัวเสียงที่เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันพยายามทำให้เกิดเสียงดัง อีกทั้งการเดินสะกดรอยช้างในป่าสะเดาซึ่งมีเนื้อที่ 700 – 800 ไร่ เป็นเวลาต่อเนื่องหลายวันส่งผลให้อ่อนล้า

ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ รายงานว่า ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่ารบกวนประชาชน จะมีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า 86 ชุดและอยู่ระหว่างยื่นคำขอเพิ่มเติมอีก 98 ชุดเพื่อปฏิบัติการเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีช้างออกนอกพื้นที่จำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ด้วยการจ้างเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า 297 อัตรา พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ประจำชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า 100 ชุด ประกอบด้วย อากาศยานไร้คนขับพร้อมกล้องตรวจจับความร้อนและระบบสื่อสาร กล้อง thermal แบบส่องกลางคืน เครื่องรับส่งวิทยุชนิดมือถือ กล้อง action camera โทรโข่ง ไฟฉาย เป้สนาม เป็นต้น รวมถึงฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าอีก 30 รุ่น และฝึกอบรมเครือข่ายชุมชนเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ 214 เครือข่าย รวม 30 รุ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ เครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ เป็นแนวทางสำคัญในการลดความรุนแรงและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ผ่านมาได้มีการจัดชุดผลักดันช้างป่าและเครือข่ายชุมชนรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีปัญหาระหว่างคนกับช้างป่าในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวน 214 เครือข่าย ตั้งเป้าหมายให้ในปีงบประมาณ 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 227 เครือข่าย. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]