โครงการสร้างภูมิคุ้มกัน Climate Change ในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง และ UNDP จัดทำ “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย” มั่นใจสามารถสร้างความร่วมมือ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมขยายผลความสำเร็จจาก 4 จังหวัดนำร่อง สู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย


นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากรายงาน Global Climate Risk Index ของ German watch ในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงภัยต่อการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ จัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก โดยผลกระทบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของน้ำท่วม พายุ และคลื่นความร้อน ทำให้ความเสี่ยงและความเปราะบางของทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งมีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบนิเวศแนวปะการัง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งนิเวศบริการที่สำคัญให้กับชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนชายฝั่งที่พึ่งพิงฐานทรัพยากรเพื่อการเกษตรกรรม ประมง และท่องเที่ยวซึ่งทำให้ความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ 18 จังหวัด มีความยาวประมาณ 3,148 กิโลเมตร ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งบริเวณอ่าวไทย จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะต้องเสริมสร้างศักยภาพด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างการมีภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ดำเนิน “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย (Increasing resilience to climate change impacts in marine and coastal areas along the Gulf of Thailand)” ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว Green Climate Fund (GCF) จำนวนเงิน 3,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินการในพื้นที่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ใน 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2563 – 2567 เป็นระยะเวลา 4 ปี

จากความร่วมมือในการดำเนินโครงการจึงทำให้เกิดเป็นความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1) ข้อมูลความเสี่ยงระดับพื้นที่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา 2) พัฒนาขีดความสามารถและองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น เพื่อจัดทำแผนการปรับตัว ฯ ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงในพื้นที่ 3) มาตรการทางเลือกที่ใช้ในกระบวนการปรับตัว เช่น ธนาคารสัตว์น้ำ ซั้งปลา กำแพงกั้นคลื่น การฟื้นฟูและอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน เพื่อให้หน่วยงานระดับพื้นที่ทราบถึงความต้องการการสนับสนุนสำหรับการดำเนินงานของพื้นที่ 4) พัฒนาตัวชี้วัดด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สําหรับภาคการท่องเที่ยว การเกษตรและการประมง และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการบูรณาการสู่แผนพัฒนาจังหวัด 5) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) 6) กลยุทธ์การจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง (ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตรและประมง และทรัพยากรธรรมชาติ)


Ms.Irina Goryunova รองผู้แทนประจำโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทยกล่าวว่า แนวทางในการบูรณาการเพื่อขยายผลการดำเนินงานสู่แผนงานในอนาคต จะมีการนำข้อมูลที่ได้จากโครงการมาใช้ในการแก้ไขหรือปรับปรุงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติในระยะต่อไป รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง 6 สาขา ที่จะดำเนินงานในระยะถัดไป อีกทั้งได้แนวทางการปฏิบัติที่ดี (best practices) จากพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด นำไปขยายผลการดำเนินงานสู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ตลอดจนขับเคลื่อนไปสู่การดำเนินงานในระดับพื้นที่ และที่สำคัญหลังจากนี้ จะต้องมีการขับเคลื่อนการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ประชาชน เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ และจากหลายภาคส่วน มาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมกันรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป. -512- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง อีสานอุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า