โครงการสร้างภูมิคุ้มกัน Climate Change ในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง และ UNDP จัดทำ “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย” มั่นใจสามารถสร้างความร่วมมือ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมขยายผลความสำเร็จจาก 4 จังหวัดนำร่อง สู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย


นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากรายงาน Global Climate Risk Index ของ German watch ในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงภัยต่อการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ จัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก โดยผลกระทบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของน้ำท่วม พายุ และคลื่นความร้อน ทำให้ความเสี่ยงและความเปราะบางของทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งมีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบนิเวศแนวปะการัง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งนิเวศบริการที่สำคัญให้กับชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนชายฝั่งที่พึ่งพิงฐานทรัพยากรเพื่อการเกษตรกรรม ประมง และท่องเที่ยวซึ่งทำให้ความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ 18 จังหวัด มีความยาวประมาณ 3,148 กิโลเมตร ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งบริเวณอ่าวไทย จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะต้องเสริมสร้างศักยภาพด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างการมีภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ดำเนิน “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย (Increasing resilience to climate change impacts in marine and coastal areas along the Gulf of Thailand)” ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว Green Climate Fund (GCF) จำนวนเงิน 3,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินการในพื้นที่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ใน 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2563 – 2567 เป็นระยะเวลา 4 ปี

จากความร่วมมือในการดำเนินโครงการจึงทำให้เกิดเป็นความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1) ข้อมูลความเสี่ยงระดับพื้นที่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา 2) พัฒนาขีดความสามารถและองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น เพื่อจัดทำแผนการปรับตัว ฯ ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงในพื้นที่ 3) มาตรการทางเลือกที่ใช้ในกระบวนการปรับตัว เช่น ธนาคารสัตว์น้ำ ซั้งปลา กำแพงกั้นคลื่น การฟื้นฟูและอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน เพื่อให้หน่วยงานระดับพื้นที่ทราบถึงความต้องการการสนับสนุนสำหรับการดำเนินงานของพื้นที่ 4) พัฒนาตัวชี้วัดด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สําหรับภาคการท่องเที่ยว การเกษตรและการประมง และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการบูรณาการสู่แผนพัฒนาจังหวัด 5) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) 6) กลยุทธ์การจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง (ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตรและประมง และทรัพยากรธรรมชาติ)


Ms.Irina Goryunova รองผู้แทนประจำโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทยกล่าวว่า แนวทางในการบูรณาการเพื่อขยายผลการดำเนินงานสู่แผนงานในอนาคต จะมีการนำข้อมูลที่ได้จากโครงการมาใช้ในการแก้ไขหรือปรับปรุงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติในระยะต่อไป รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง 6 สาขา ที่จะดำเนินงานในระยะถัดไป อีกทั้งได้แนวทางการปฏิบัติที่ดี (best practices) จากพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด นำไปขยายผลการดำเนินงานสู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ตลอดจนขับเคลื่อนไปสู่การดำเนินงานในระดับพื้นที่ และที่สำคัญหลังจากนี้ จะต้องมีการขับเคลื่อนการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ประชาชน เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ และจากหลายภาคส่วน มาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมกันรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป. -512- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พปชร.” เปิดตัว 21 ว่าที่ผู้สมัคร อดีตเด็กเพื่อไทยยกขบวนซบพรึ่บ

พปชร. 8 ก.ค.- “พปชร.” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 21 คน อดีตเด็กเพื่อไทยยกขบวนซบ “ลุงป้อม” พรึ่บ อีสานมาเพียบ “นุกูล แสงศิริ – ศักดา คงเพชร” โผล่ด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรค พปชร. จำนวน 21 คน โดยนายสันติ กล่าวว่า ขอขอบคุณว่าที่ผู้สมัครทุกๆ คนที่เห็นความตั้งใจจริงของพรรค พปชร. ซึ่งพรรคมีนโยบายทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติ พรรค พปชร.จะทำทุกสิ่งเพื่อที่จะยกระดับ คุณภาพ ศักยภาพของเยาวชน และเราจะสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาพี่น้องชาวชนบท เรื่องพืชไร่ เรื่องการศึกษาอะไรต่างๆ เป็นนโยบายที่จะยกระดับลูกหลานของเราให้ทัดเทียมนานาอารยะประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 21 คนที่เปิดตัวกับพรรค พปชร.ครั้งนี้ พบว่า เกือบทั้งหมดเป็นอดีต สส. และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย […]

มท. ชงตั้งอธิบดี-ผู้ว่าฯ เด้ง “ไชยวัฒน์-นฤชา” เข้ากรุ

กทม 8 ก.ค.-มท. ชงตั้งอธิบดี-ผู้ว่าฯ เด้ง “ไชยวัฒน์-นฤชา” สายน้ำเงินเข้ากรุผู้ตรวจ ด้าน “นิรัตน์” ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผงาดนั่งปกครอง “ภพชนก” ผู้ว่าฯ เพชรบุรีคุมท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง และ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.-319.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด ทลายเครือข่ายก๊กอาน คนสนิท “ฮุนเซน”

กทม. 8 ก.ค.-ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด เปิดยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่ายก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino คนสนิท “ฮุนเซน” ยึดรถหรู-เงิน 27 ล้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่ กทม.สมุทรปราการ ชลบุรี […]

ครม.เห็นชอบตาม มท. เสนอเด้ง “2 อธิบดี” เข้ากรุผู้ตรวจฯ

ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.ค.-ครม. เห็นชอบตามที่ มท. เสนอย้ายอธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม. ได้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมา โดยเห็นชอบให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทน ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยให้ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแทน.-312 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]

ตร.เผยคดีเงินวัดม่วงหายคืบหน้ามาก ยันไม่มีอาชญากรรมใดไม่ทิ้งร่องรอย

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – ผกก.สน.เพชรเกษม ระบุคดีเงินเจ้าอาวาสวัดม่วงล่องหน 10 ล้าน คืบหน้าไปมาก ยืนยันไม่มีอาชญากรรมใดที่ไม่ทิ้งร่องรอย ขอเวลาตำรวจทำงานอีกนิด ใกล้รู้เงินหายไปไหน ด้านชาวบ้านที่ศรัทธาเจ้าอาวาสบุกให้กำลังใจ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยตัวแทนเจ้าหน้าที่จาก บก.ปปป. ป.ป.ท. และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินข้ามสะพานจาก สน.เพชรเกษม ไปยังกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง โดยระหว่างทาง พ.ต.อ.ปราโมทย์ บอกกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ เพียงแค่ว่า เป็นการมาตรวจสอบเอกสารรายรับรายจ่ายและที่มาทรัพย์สินของเจ้าอาวาส ส่วนรายละเอียดต้องรอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบเอกสารและชี้แจงอีกที จากนั้นบรรดาคณะเจ้าหน้าที่ได้มาถึงที่กุฏิเจ้าอาวาส โดยพบว่า พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนที่จะเดินออกจากกุฏิพร้อมพระเลขา เพื่อมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด ที่ศาลาประดิษฐ์ กลีบบัว ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญของวัด โดยระหว่างทางผู้สื่อข่าวได้กราบนมัสการสอบถามพระคุณเจ้าถึงรายละเอียดการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ และความรู้สึกว่ามีความเครียดหรือกังวลหรือไม่ ปรากฏว่าพระคุณเจ้าโบกมือปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ขณะเดียวกัน พบว่ามีพระลูกวัดจำนวนหนึ่งและชาวบ้านในพื้นที่เดินทางเข้ามาหน้ากฏิเจ้าอาวาส เพื่อมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส โดยคุณยายรายหนึ่ง อายุประมาณ 80 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนเป็นชาวบ้านในพื้นที่และตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส เนื่องจากท่านมีวัฏฏะการปฏิบัติที่ดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย […]

สหรัฐประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36%

วอชิงตัน 8 ก.ค. – สหรัฐประกาศมาตรการล่าสุดเรียกเก็บภาษี 36% จากสินค้านำเข้าจากประเทศไทย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเตือนอย่างชัดเจนไม่ให้ไทยใช้มาตการตอบโต้ และเรียกร้องให้ประเทศไทยเปิดตลาดเพิ่มเติม การเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่แข็งกร้าวและกว้างขวางของวอชิงตัน เพื่อแก้ไขสิ่งที่พวกเขาถือเป็น “ความไม่สมดุลทางการค้า” กับคู่ค้าทั่วโลก ในจดหมายที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Tuth Social) ของเขาในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม นายทรัมป์ระบุว่าภาษีตอบโต้ 36% นี้จะใช้กับ “สินค้าไทยทุกประเภท นอกเหนือจากภาษีเฉพาะภาคส่วนที่มีอยู่” และจะเรียกเก็บกับสินค้าที่ขนส่งผ่านประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้นด้วย จดหมายของนายทรัมป์ยังระบุว่าอัตราภาษีนี้ยังน้อยกว่าสิ่งที่ประเทศไทยจำเป็นต้องทำเพื่อขจัดความไม่สมดุลทางการค้าที่สำคัญ เขายังกล่าวว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีหากประเทศไทย หรือบริษัทของไทย ตัดสินใจสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันความต้องการที่จะทำการค้ากับประเทศไทยต่อไป แต่ยืนกรานว่าจะต้อง “สมดุลและเป็นธรรม”เขายังเชิญประเทศไทยให้เข้าร่วมเศรษฐกิจพิเศษของสหรัฐ โดยยอมรับว่าสหรัฐได้เจรจาการค้ากับประเทศไทยมาหลายปีแล้ว เนื่องจากปัญหาความไม่สมดุลที่ยืดเยื้อ นอกจากนั้นยังตือนว่า หากประเทศไทยตัดสินใจขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากภาษี 36% ที่ประกาศไปแล้ว นายทรัมป์ย้ำเหตุผลของเขาด้วยว่า การขาดดุลการค้าก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม จดหมายดังกล่าวยังเสนอแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการปรับปรุงอัตราภาษีด้วย นายทรัมป์ระบุว่าหากประเทศไทย […]