คาดน้ำล้นตลิ่งหลายสาย สทนช. เฝ้าระวัง-แจ้งเตือนทุกพื้นที่เสี่ยง

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สทนช.ระบุฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาหลายสายเสี่ยงล้นตลิ่ง โดยฝนตกหนักตั้งแต่ปลายสัปดาห์แล้วจากอิทธิพลของพายุซูลิก ต่อเนื่องด้วยร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง แต่น้ำเหนือที่จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง จะไม่ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างฉับพลันจึงขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกว่า จะเกิดอุทกภัยรุนแรง


นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากอิทธิพลของพายุซูลิก ส่วนระยะนี้ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรงและมีแนวสอบของลมบริเวณอ่าวไทยทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกมีฝนตกต่อเนื่อง

วานนี้ฝนที่ตกหนักในอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย วัดปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ได้มากถึง 160 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำจะไหลตามลำน้ำแม่ลาว คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งในอำเภอแม่สรวยประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร แล้วไหลต่อไปยังอำเภอเมืองเชียงรายซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในตัวเมืองเชียงรายปริ่มตลิ่ง โดยอาจล้นตลิ่งเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป สทนช. แจ้งเตือนไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้แจ้งจังหวัดเชียงรายเพื่อแจ้งเตือนประชาชนแล้ว


ที่ลุ่มน้ำวัง มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมาซึ่งมีน้ำมากออกมาสมทบ สทนช. คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเมืองลำปางซึ่งได้แจ้งปภ. และคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยด้วยแล้ว น้ำจะไหลต่อไปยังอำเภอเถินซึ่งคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 จะมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 20 – 50 เซนติเมตร ส่วนที่จังหวัดตาก คาดการณ์ว่า จะน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำในอำเภอสามเงาประมาณ 1.0 – 1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567

ส่วนที่ลุ่มน้ำน่าน คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่านในอีก 2 – 3 วันนี้ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในแม่น้ำน่านจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับได้อยู่ แต่คาดว่าจะทำให้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเกือบ 90% ของความจุ

สำหรับลุ่มน้ำยม คาดว่า ในระยะ 7 วันนี้จะมีน้ำล้นตลิ่งในจังหวัดแพร่ตั้งแต่อำเภอสอง อำเภอเมืองแพร่ และอำเภอวังชิ้นประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร น้ำในแม่น้ำยมจะไหลต่อเนื่องผ่านจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลกตามลำดับ คาดว่าสถานการณ์น้ำจะใกล้เคียงกับที่เกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำยมเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยประมาณ 1,800 ลบ.ม./วินาทีจึงจะใช้ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ผันน้ำเพื่อแบ่งน้ำเข้าคลองหกบาท แม่น้ำยมสายเก่า และคลองยม-น่าน นอกจากนี้สทนช. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผันน้ำเข้าแก้มลิงทุ่งบางระกำที่สามารถรับน้ำได้อีก 50% และรับน้ำเข้าทุ่งทะเลหลวงเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ไม่ให้เกินความจุลำน้ำ ตลอดจนเป็นการแบ่งน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา โดยให้ทยอยไหลลงมา


อีกกลุ่มน้ำที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดคือ ลุ่มน้ำป่าสัก คาดการณ์ว่า ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเกิดน้ำไหลหลากและล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร ภาคตะวันออกต้องเฝ้าระวังที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด น้ำแม่น้ำเขาสมิงจะล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร

นายฐนโรจน์ กล่าวย้ำว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ความจุลำน้ำ 3,660 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,470 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 40% ของความจุลำน้ำ คาดว่า ในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำจะอยู่ในช่วง 1,661 – 2,046 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 45 – 56% ของความจุลำน้ำ กรมชลประทานแจ้งมายังสทนช. ว่า จะทยอยปรับการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับทั้งน้ำเหนือและฝนที่ตกในพื้นที่ จากที่ระบายวันนี้ในอัตรา 1,049 ลบ.ม./วินาทีและจะปรับเป็น 1,100 ลบ.ม. /วินาที แล้วคงอัตราต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้กรมชลประทานพร่องน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลงอีก 1 เมตรเพื่อรองรับน้ำระลอกใหม่ พร้อมกับแบ่งเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวาด้วย เมื่อติดตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากความจุลำน้ำ 3,500 ลบ.ม./วินาที พบว่า วันนี้อยู่ที่อัตรา 1,521 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 43% ของความจุลำน้ำ ดังนั้นจะมีการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ประชาชนจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่า พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างจะเกิดอุทกภัย

สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันพบใน 9 จังหวัดได้แก่

  • จังหวัดเชียงรายที่อำเภอแม่สาย เวียงป่าเป้า และเมืองเชียงราย
  • จังหวัดเชียงใหม่ที่อำเภอแม่ริม
  • จังหวัดน่านที่อำเภอนาน้อย นาหมื่น และเวียงสา
  • จังหวัดลำปางที่อำเภองาว เมืองลำปาง เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ และวังเหนือ
  • จังหวัดแพร่ที่อำเภอลองและวังชิ้น
  • จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอพรหมพิราม บางระกำ และเมืองพิษณุโลก
  • จังหวัดเลยที่อำเภอเมืองเลย
  • จังหวัดหนองคายที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ เมืองหนองคาย และโพนพิสัย
  • จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่อำเภอบางบาล บางปะอิน ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา เสนา และบางไทร

ส่วนผลการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วันในช่วงวันที่ 24 – 26 กันยายน 2567 สทนช. พบพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัด ได้แก่

  1. ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดลำปาง ที่อำเภอสบปราบและเมืองปาน จังหวัดพะเยา ที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดแพร่ที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอนครไทย วังทอง และเนินมะปราง และจังหวัดเพชรบูรณ์ที่อำเภอเขาค้อ
  2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครพนม ที่อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร ที่อำเภอเต่างอย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอนาคู และจังหวัดอุบลราชธานี ที่อำเภอน้ำยืน
  3. ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี ที่อำเภอนาดี และจังหวัดตราด ที่อำเภอบ่อไร่
  4. ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่อำเภอพระแสง จังหวัดนครศรีธรรมราชที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดสตูลที่อำเภอควนโดน และจังหวัดยะลาที่อำเภอเบตง

ทั้งนี้ สทนช. ได้ประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]