คาดน้ำล้นตลิ่งหลายสาย สทนช. เฝ้าระวัง-แจ้งเตือนทุกพื้นที่เสี่ยง

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สทนช.ระบุฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาหลายสายเสี่ยงล้นตลิ่ง โดยฝนตกหนักตั้งแต่ปลายสัปดาห์แล้วจากอิทธิพลของพายุซูลิก ต่อเนื่องด้วยร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง แต่น้ำเหนือที่จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง จะไม่ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างฉับพลันจึงขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกว่า จะเกิดอุทกภัยรุนแรง


นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากอิทธิพลของพายุซูลิก ส่วนระยะนี้ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรงและมีแนวสอบของลมบริเวณอ่าวไทยทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกมีฝนตกต่อเนื่อง

วานนี้ฝนที่ตกหนักในอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย วัดปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ได้มากถึง 160 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำจะไหลตามลำน้ำแม่ลาว คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งในอำเภอแม่สรวยประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร แล้วไหลต่อไปยังอำเภอเมืองเชียงรายซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในตัวเมืองเชียงรายปริ่มตลิ่ง โดยอาจล้นตลิ่งเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป สทนช. แจ้งเตือนไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้แจ้งจังหวัดเชียงรายเพื่อแจ้งเตือนประชาชนแล้ว


ที่ลุ่มน้ำวัง มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมาซึ่งมีน้ำมากออกมาสมทบ สทนช. คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเมืองลำปางซึ่งได้แจ้งปภ. และคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยด้วยแล้ว น้ำจะไหลต่อไปยังอำเภอเถินซึ่งคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 จะมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 20 – 50 เซนติเมตร ส่วนที่จังหวัดตาก คาดการณ์ว่า จะน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำในอำเภอสามเงาประมาณ 1.0 – 1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567

ส่วนที่ลุ่มน้ำน่าน คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่านในอีก 2 – 3 วันนี้ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในแม่น้ำน่านจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับได้อยู่ แต่คาดว่าจะทำให้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเกือบ 90% ของความจุ

สำหรับลุ่มน้ำยม คาดว่า ในระยะ 7 วันนี้จะมีน้ำล้นตลิ่งในจังหวัดแพร่ตั้งแต่อำเภอสอง อำเภอเมืองแพร่ และอำเภอวังชิ้นประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร น้ำในแม่น้ำยมจะไหลต่อเนื่องผ่านจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลกตามลำดับ คาดว่าสถานการณ์น้ำจะใกล้เคียงกับที่เกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำยมเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยประมาณ 1,800 ลบ.ม./วินาทีจึงจะใช้ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ผันน้ำเพื่อแบ่งน้ำเข้าคลองหกบาท แม่น้ำยมสายเก่า และคลองยม-น่าน นอกจากนี้สทนช. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผันน้ำเข้าแก้มลิงทุ่งบางระกำที่สามารถรับน้ำได้อีก 50% และรับน้ำเข้าทุ่งทะเลหลวงเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ไม่ให้เกินความจุลำน้ำ ตลอดจนเป็นการแบ่งน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา โดยให้ทยอยไหลลงมา


อีกกลุ่มน้ำที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดคือ ลุ่มน้ำป่าสัก คาดการณ์ว่า ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเกิดน้ำไหลหลากและล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร ภาคตะวันออกต้องเฝ้าระวังที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด น้ำแม่น้ำเขาสมิงจะล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร

นายฐนโรจน์ กล่าวย้ำว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ความจุลำน้ำ 3,660 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,470 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 40% ของความจุลำน้ำ คาดว่า ในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำจะอยู่ในช่วง 1,661 – 2,046 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 45 – 56% ของความจุลำน้ำ กรมชลประทานแจ้งมายังสทนช. ว่า จะทยอยปรับการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับทั้งน้ำเหนือและฝนที่ตกในพื้นที่ จากที่ระบายวันนี้ในอัตรา 1,049 ลบ.ม./วินาทีและจะปรับเป็น 1,100 ลบ.ม. /วินาที แล้วคงอัตราต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้กรมชลประทานพร่องน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลงอีก 1 เมตรเพื่อรองรับน้ำระลอกใหม่ พร้อมกับแบ่งเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวาด้วย เมื่อติดตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากความจุลำน้ำ 3,500 ลบ.ม./วินาที พบว่า วันนี้อยู่ที่อัตรา 1,521 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 43% ของความจุลำน้ำ ดังนั้นจะมีการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ประชาชนจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่า พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างจะเกิดอุทกภัย

สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันพบใน 9 จังหวัดได้แก่

  • จังหวัดเชียงรายที่อำเภอแม่สาย เวียงป่าเป้า และเมืองเชียงราย
  • จังหวัดเชียงใหม่ที่อำเภอแม่ริม
  • จังหวัดน่านที่อำเภอนาน้อย นาหมื่น และเวียงสา
  • จังหวัดลำปางที่อำเภองาว เมืองลำปาง เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ และวังเหนือ
  • จังหวัดแพร่ที่อำเภอลองและวังชิ้น
  • จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอพรหมพิราม บางระกำ และเมืองพิษณุโลก
  • จังหวัดเลยที่อำเภอเมืองเลย
  • จังหวัดหนองคายที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ เมืองหนองคาย และโพนพิสัย
  • จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่อำเภอบางบาล บางปะอิน ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา เสนา และบางไทร

ส่วนผลการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วันในช่วงวันที่ 24 – 26 กันยายน 2567 สทนช. พบพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัด ได้แก่

  1. ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดลำปาง ที่อำเภอสบปราบและเมืองปาน จังหวัดพะเยา ที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดแพร่ที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอนครไทย วังทอง และเนินมะปราง และจังหวัดเพชรบูรณ์ที่อำเภอเขาค้อ
  2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครพนม ที่อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร ที่อำเภอเต่างอย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอนาคู และจังหวัดอุบลราชธานี ที่อำเภอน้ำยืน
  3. ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี ที่อำเภอนาดี และจังหวัดตราด ที่อำเภอบ่อไร่
  4. ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่อำเภอพระแสง จังหวัดนครศรีธรรมราชที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดสตูลที่อำเภอควนโดน และจังหวัดยะลาที่อำเภอเบตง

ทั้งนี้ สทนช. ได้ประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]