กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดตัวคู่มือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเป็นคู่มือครู สำหรับทำกิจกรรมเรียนรู้ร่วมกับเด็กๆ เน้นลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า บทบาทภารกิจของกรมคือ การขับเคลื่อนประเทศตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) ทั้ง Mitigation และ Adaptation ในมิติต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในทุกระดับตั้งแต่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม การเกษตร และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานตาม Article 6 หรือ มาตรา 6 ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการศึกษา การฝึกอบรม และการรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญและจำเป็นในการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ Climate Change ได้แก่ เด็กและเยาวชนในทุกระดับ โดยกรมได้ให้ความสำคัญและทำงานในภาคการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ Eco – School โครงการ Zero Waste School เพื่อสนับสนุนหน่วยงานหลักอย่างกระทรวงศึกษาธิการ ในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรทางการศึกษา ให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ไม่ได้เรียนเพื่อแค่รู้ แต่เรียนแล้วต้องนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ หรือ Climate Literacy
กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมจึงได้ร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน โดยมีทิศทางการขับเคลื่อนเรื่อง Climate Education สำหรับประเทศไทยเช่นเดียวกันกับกรม จึงได้ร่วมกันจัดทำสื่อการสอน คู่มือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ: Active Learning on Biodiversity and Climate change เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอนเรื่อง Climate Change สามารถนำไปประยุกต์หรือบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนได้ โดยจะช่วยให้ครูเปิดมุมมองการสอนเรื่องของสิ่งแวดล้อมและเรื่องของ Climate Change ให้เป็นเรื่องสนุก สามารถเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับเด็กได้ เน้นไปที่การเรียนรู้เรื่องผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพโดยเฉพาะในท้องถิ่นของตนเอง ได้เรียนรู้ในพื้นที่จริง ได้ลงมือทำเพื่อแก้ไขปัญหา โดยใช้ธรรมชาติเป็นสื่อการเรียนรู้ เกิดความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึก และได้รับประสบการณ์ตรงหรือที่เรียกว่า Active Learning พร้อมตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ หวังว่า คู่มือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษานี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความรับผิดชอบต่อโลก รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดความตื่นตัวต่อสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเรื่อง Climate Change ให้พร้อมตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
นางเซเวอรีน เลโอนาร์ดี รองผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยกล่าวว่า องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานของสหประชาชาติที่ได้รับมอบอำนาจให้คุ้มครองสิทธิของเด็ก ซึ่งรวมถึงสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม และเล็งเห็นว่าพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่เด็ก เยาวชนเรื่อง Climate Change เริ่มจากการศึกษา และพื้นฐานความเข้าใจถึงผลกระทบ แนวทางการรับมือ รวมถึงวิธีการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อลดผลกระทบ และในฐานะภาคีหลักในการร่วมจัดทำคู่มือในครั้งนี้ จึงถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการขับเคลื่อนเรื่อง Climate Education สำหรับประเทศไทย และยังคงมีแผนการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคตอีกด้วย
นางสาวรัตนา แสงบัวเผื่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง Climate Change โดยการผลักดันให้มีการบรรจุเนื้อหาหรือการพัฒนาเป็นหลักสูตรในระบบการศึกษา รวมทั้งการปรับโครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง ฐานสมรรถนะต่าง ๆ ของผู้เรียน ให้เป็นไปตามทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งคู่มือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา เป็นสื่อการสอนที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอนเรื่อง Climate Change สามารถนำไปประยุกต์หรือบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเสริมพลังการเรียนรู้ สร้างความตระหนักและจิตสำนึกของเด็กและเยาวชนทุกระดับ นำไปสู่การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ในอนาคต. -512 – สำนักข่าวไทย