เร่งสกัดน้ำอ่างฯ ห้วยเชียงคำ หลังน้ำกัดเซาะทำนบดินพังทลาย

มหาสารคาม​ 18 ก.ค.​ – อธิบดี​กรมชลประทาน​ สั่งด่วนเร่งปิดจุดทำนบดินบริเวณด้านข้างอาคารระบายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ จ.​มหาสารคาม จากเหตุ​ฝนตกหนัก ส่งผลให้น้ำปริมาณ​มากกัดเซาะทำนบดินเสียหาย น้ำไหลทะลักไปยังพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ


นายชูชาติ​ รักจิตร​ อธิบดี​กรม​ชลประทาน​กล่าว​ว่า​ สั่งการด่วนที่สุดให้นำเครื่องจักร เครื่องมือลงพื้นที่ เข้าไปกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำที่ไหลทะลักจากอ่างเก็บน้ำ​ห้วย​เชียง​คำ​ให้ลงลำน้ำเสียวใหญ่ และแม่น้ำมูลตามลำดับ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำที่ไหลลงสู่พื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ​คาดว่า​ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม จะสามารถระบายน้ำได้ภายใน 5 วัน สำหรับ​สาเหตุ​ที่ทำทบดินถูก​น้ำกัดเซาะ​เนื่องจาก​มีฝนตก​หนัก​มาก​ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเกินกว่าความจุ โดยวันที่ 15 กรกฎาคม​มีน้ำในอ่างเก็บน้ำ​ประมาณ 2.72 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 54% ของความจุเท่านั้น​ ห้วง 1 -​ 2 วัน​ที่ผ่านมา​มีฝนตกหนักในพื้นที่วัดปริมาณฝนสูงสุด​ใน​ 24​ ชั่วโมง​ได้​ 145.50 มิลลิเมตร (มม.)

อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ก่อสร้างแล้วเสร็จและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2499 มีอายุการใช้งานกว่า 68 ปี มีความจุเก็บกักที่ประมาณ 5.07 ล้านลูกบาศก์เมตร​ (ล้าน ลบ.ม.) มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ย 24.20 ล้าน ลบ.ม./ปี เมื่อเปรียบเทียบปริมาณน้ำไหลเข้ากับความจุเก็บกักพบว่า​ ปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าความจุเก็บกักถึง 4.77 เท่า ทำให้เขื่อนมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลล้นข้ามสันเขื่อน จากฝนที่ตกลง​มา​เป็น​ปริมาณ​มากกว่าปกติ​ ขณะที่อาคารระบายน้ำล้น (Spillway) สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 24.2 ลบ.ม./วินาที​ ส่งผลให้​น้ำเอ่อล้นทำนบดินชั่วคราวไหลลงช่องอาคารระบายน้ำล้นเกิดการกัดเซาะอาคารและทำนบดิน เสียหายขาดเป็นความยาวประมาณ 50 เมตร ไหลลงสู่พื้นที่ด้านท้าย​ได้รับผลกระทบ ประมาณ 3,000 ไร่


สำนักงานชลประทานที่ 6 โดยโครงการชลประทานมหาสารคามระดมเครื่องจักร เครื่องมือ และวัสดุหินใหญ่เข้าไปปิดกั้นน้ำทั้งสองฝั่งของทำนบดิน เพื่อไม่ให้เกิดการพังเสียหายขยายเพิ่มเติม​ ในวันนี้มอบหมาย​ให้​รองอธิบดี​กรมชลประทาน​ 2​ คนเดินทางไปอำนวยการ​ซ่อมแซม​ทำนบและเร่งระบาย​น้ำเพื่อ​ช่วย​เหลือ​ประชา​ชนด่วน​ที่สุด

สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับกัดเซาะ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถเข้าทำการปิดทำนบดินที่ขาดได้ ด้วยการทำพนังกั้นน้ำกึ่งถาวร เว้นช่วงให้น้ำไหลผ่านได้ เมื่อใกล้หมดฤดูฝนจะปิดทำนบแบบถาวร เพื่อให้สามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าได้ต่อไป

จากการที่การสร้างควาตัวเขื่อน​ใช้งาน​มานานจึงเพิ่ม​ความมั่นคงแข็งแรง​ให้แก่ตัวเขื่อน​โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมชลประทาน ได้ทำการปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น ให้สามารถระบายน้ำได้มากขึ้น จากเดิม 24.20 ลบ.ม./วินาที (2.09 ล้าน ลบ.ม./วัน) เป็น 54 ลบ.ม./วินาที (4.06 ล้าน ลบ.ม./วัน) แต่ฝนที่ตกหนัก​ผิดปกติ​จึง​เกิดเหตุ​ดังกล่าว​ขึ้น​ระหว่าง​ก่อสร้าง


ทั้งนี้ กรมชลประทานจะติดตามและควบคุมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ.​-512-สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก

ญาติเชื่อพระมรณภาพก่อนถูก “เจ้าจอร์จ” กัดแทะ

ญาติมั่นใจหลวงพี่มรณภาพด้วยโรคประจำตัว ก่อนถูกสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ที่เลี้ยงไว้ในกุฏิกัดแทะร่างเพราะความหิว วอนอย่าโยนบาปให้สุนัข