ระยอง 9 พ.ค. – อธิบดีคพ. เผย ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากเหตุไฟไหม้ถังบรรจุสารเคมีที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิง ล่าสุดมีการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 โดยมีการอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนรอบที่เกิดเหตุ ยังไม่พบไอระเหยของสารเคมีที่เป็นพิษ
นางสาวปรียาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่าได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สนับสนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉินอุบัติภัยสารเคมีจากเหตุเพลิงไหม้ถังบรรจุสารเคมีของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยเจ้าหน้าที่คพ. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ขณะนี้อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุ
ขณะนี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 แล้ว การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สั่งให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จังหวัดระยองอพยพคนพนักงานของสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งออกจากพื้นที่เกิดเหตุโดยด่วน
ทั้งนี้คพ. ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนรอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งยังไม่พบไอระเหยสารเคมีที่เป็นอันตราย หากเพลิงสงบแล้วจึงจะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้
สำหรับระดับความรุนแรงของเหตุการสาธารณภัยจาดสารเคมีได้แบ่งเป็น 4 ระดับตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ ดังนี้
ระดับที่ 1 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่ไม่อันตรายต่อชีวิต สิ่งแวดล้อมและทรัพย์สินเล็กน้อย การรั่วไหลหรือเพลิงไหม้อยู่ในขอบเขตกำจัดไม่มีการอพยพประชาชน
ระดับที่ 2 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตสิ่งแวดล้อมและทรัพย์สินมากขึ้น การรั่วไหลหรือเพลิงไหม้ขยายขอบเขตสู่พื้นที่ใกล้เคียงมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แต่ไม่มากนัก
ระดับที่ 3 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตสิ่งแวดล้อมและทรัพย์สิน จำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
ระดับที่ 4 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตสิ่งแวดล้อมและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง ใช้ผู้เชี่ยวชาญ กำลังคนจำนวนมาก ใช้เครื่องมืออุปกรณ์พิเศษเฉพาะ
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้บัญชาการเหตุการณ์เพื่อควบคุมเหตุเพลิงไหม้ภายในถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติกของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) ถนนไอ 8 ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตามที่ทางจังหวัดได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับที่ 2 โดยร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และหน่วยงานราชการท้องถิ่นในพื้นที่ โดยมีความพยายามในการควบคุมเพลิง พร้อมอพยพประชาชนชุมชนหนองแฟบและชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
ต่อมาเวลา 15.30 น. ได้ระดมรถดับเพลิงในบริเวณพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วยสนับสนุนการควบคุมเพลิง รวมทั้งมีการปั๊มน้ำจากทะเลขึ้นมาหล่อเย็น เพื่อลดอุณหภูมิของถังสารเคมีที่อยู่บริเวณใกล้เคียงซึ่งยังเป็นการไหม้แค่ 1 ถังเท่านั้น
ล่าสุดบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัดออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่ บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 10.45 น. โดยบริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยได้ตัดแยกระบบ และหยุดกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงานตามขั้นตอนความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมเหตุการณ์และประเมินความเสียหาย รวมทั้งการหาสาเหตุ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) จากการผลิตสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก โดยได้แยกเบนซีน โทลูอีน มิกซ์ไซลีน ออกหมดแล้ว ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ (Solvent) บริษัทฯ ขออภัยในเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชุมชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยเร็วที่สุด. 512 – สำนักข่าวไทย