สมุทรสาคร 22 เม.ย.- กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมเก็บขยะป่าชายเลน ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก ปี 2567 พร้อมรณรงค์ลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หวังกู้วิกฤตโลก
ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยเกี่ยวกับวิกฤตโลกเดือด รวมถึงปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติก ซึ่งรัฐบาลได้เห็นความสำคัญและตระหนักถึงปัญหานี้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทุกภาคส่วนเร่งรัดการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นแบบบูรณาการ อย่างเป็นรูปธรรม และเนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก ปี 2567 นี้ จึงได้มอบหมายให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) เร่งขับเคลื่อนความร่วมมือลดใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิกฤตโลกเดือด
กิจกรรมเนื่องในวันคุ้มครองโลก ประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมกับทุกพื้นที่ทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดที่ใช้ในการจัดกิจกรรมจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก และสำหรับปี 2567 มีแนวคิด “Planet vs. Plastics: ลดพลาสติก กู้วิกฤตโลกเดือด” ซึ่งมีความสอดคล้องกับ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561- 2573 ของประเทศไทย ที่มีเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติกด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570 ซึ่งการที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน
ในปีนี้จึงเกิดเป็นความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม รวมพลังลดใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งพร้อมกันทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1) ผู้ประกอบการร้านกาแฟในประเทศ จำนวน 31 บริษัท รวม 9,530 ร้าน/สาขา ประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) ส่งเสริมการลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง 2) ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ งดจำหน่ายภาชนะบรรจุภัณฑ์ประเภทโฟมแบบใช้ครั้งเดียว และส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาทดแทน 3) ภาครัฐในพื้นที่จังหวัดทั่วประเทศ โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ทุกจังหวัด ร่วมรณรงค์เนื่องในวันคุ้มครองโลก ภายใต้แนวคิด “Planet vs. Plastics: ลดพลาสติก กู้วิกฤตโลกเดือด” รวบรวมปริมาณพลาสติกที่เก็บรวบรวมได้นำมาคำนวณในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก 4) เครือข่ายภาคประชาสังคมที่มีการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของ สส. ที่มีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมใจร่วมมือลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ประกอบด้วย เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) เครือข่ายโรงเรียนและชุมชนปลอดขยะ เครือข่ายเด็กและเยาวชนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน และเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคุ้มครองโลกในวันนี้เป็นการจัดงานแบบ Net Zero Event รายแรกของประเทศไทย มีการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน โดยเลือกชดเชยจากโครงการที่มีการดูดกลับคาร์บอน หรือ โครงการที่มีเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน เพื่อมาชดเชยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีการชดเชยจากโครงการปลูกป่าอย่างยั่งยืน โครงการขนาดใหญ่ ในพื้นที่สวนป่าขุนแม่คำมี สวนป่าวังชิ้น สวนป่าแม่ยม-แม่แปง จังหวัดแพร่ มาทั้งหมดจนเป็นศูนย์
ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์และจัดกิจกรรมเนื่องวันคุ้มครองโลก ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Planet vs. Plastics: ลดพลาสติก กู้วิกฤตโลกเดือด” โดยนำหลักการ 4 ป. ไปใช้ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่เหมาะสม ได้แก่ 1.ปฏิเสธพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง 2. ปรับพฤติกรรมใช้พลาสติกให้คุ้มค่าที่สุด 3. เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ทดแทนพลาสติกที่ผลิตจากธรรมชาติ 4. แปลงร่างขยะพลาสติกผ่านกระบวนการ Recycle หรือ Upcycling เพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติก ใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า และขอให้ร่วมมือร่วมใจกันในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติในการจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับลูกหลานของเราในอนาคตต่อไป-517-สำนักข่าวไทย