กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – ทส. ยกระดับมาตรการสู้ฝุ่น PM2.5 ห้ามเผา พร้อมเตรียมรับสถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือ
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานคณะอนุกรรมการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ได้นำข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในการประชุม ครม. และข้อห่วงใย พล ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน กำชับในที่ประชุมกับทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานต้องทำงานเชิงรุก ควบคุมทุกแหล่งกำเนิด ทุกพื้นที่ ทั้งพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรและพื้นที่อื่นๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ให้มีความปลอดภัย
นางสาวปรีญาพรกล่าวว่า ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาผลการดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 ในพื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตร ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงพบจุดความร้อนเป็นจำนวนมากในพื้นที่เกษตร (นาข้าว อ้อย ข้าวโพด) และเริ่มขยับมาที่พื้นที่ป่า ทำให้มีปัญหา PM2.5 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ประกอบกับยังได้รับผลกระทบจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เอื้อต่อการระบายอากาศและหมอกควันข้ามแดน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกหน่วยงานต้องเร่งยกระดับการปฏิบัติการให้เข้มข้นขึ้น ทุกจังหวัดต้องออกประกาศควบคุมและห้ามเผา และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เมื่อเกิดการเผาในพื้นที่ต้องรีบเข้าดำเนินการ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และต้องสื่อสารประชาสัมพันธ์ แถลงข่าวให้พี่น้องประชาชนรับทราบสถานการณ์ มีความเข้าใจการปฏิบัติงานของภาครัฐ และปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามสถานการณ์ฝุ่นละออง
ที่ประชุมมีการพิจารณามาตรการเชิงรุก ที่จะนำมาใช้แก้ปัญหา อาทิ การเชื่อมโยงเกษตรกรที่ไม่เผาในพื้นที่เกษตรกับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ มาตรการด้านการค้ากับสินค้าการเกษตรที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเผา การกำหนดเป็นเงื่อนไขใบอนุญาตให้โรงงานต้องไม่รับอ้อยไฟไหม้ การสนับสนุนรับซื้อใบอ้อยสดเข้าโรงไฟฟ้าชีวมวล รวมถึงที่ประชุมยังร่วมกันพิจารณาแผนฉุกเฉินสำหรับใช้ตอบโต้ในกรณีสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น และหลักเกณฑ์การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งผลการประชุมครั้งนี้ จะได้นำเสนอคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและครม. ต่อไป
สำหรับช่วงเทศกาลสำคัญที่กำลังจะมาถึง คือประเพณีตรุษจีน ที่จะมีการเซ่นไหว้ตามธรรมเนียม ปลัดกระทรวง ทส. ก็ได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้แนะนำ รณรงค์ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการสืบสานประเพณีอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกิด PM2.5 น้อยที่สุด เพื่อปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชน . 512 – สำนักข่าวไทย