ตรัง 16 ม.ค. – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ช่วยชีวิตโลมาหลังโหนกถูกเชือกพร้อมทุ่นลอยพันรัดที่บริเวณโคนหางเป็นผลสำเร็จ ให้ยารักษาบาดแผล แล้วปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยจะร่วมกันเฝ้าระวังการเกยตื้นซ้ำ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดตรัง (ศอท. จ.ตรัง) ได้ออกปฏิบัติการติดตามและเข้าช่วยเหลือโลมาหลังโหนกมีชีวิต บริเวณหน้าหาดมดตะนอย ซึ่งได้รับแจ้งในวันเดียวกันว่า พบโลมาหลังโหนกมีชีวิตถูกเชือกพร้อมทุ่นลอยพันรัดที่บริเวณโคนหาง ว่ายน้ำอยู่บริเวณหาดหยงหลิง ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อ.กันตัง จ.ตรัง
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและติดตามช่วยเหลือโลมาหลังโหนกตัวดังกล่าว โดยนำเรือยางขนาดเล็ก เรือสปีดโบ๊ต และเรือพาดหางยาว 9 ลำ พยายามเข้าช่วยเหลือโลมา โดยการใช้อวนล้อมและกระโดดจับ เพื่อทำการปลดเชือกที่โคนหาง ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถจับตัวโลมาและปลดเชือกพันรัดที่โคนหางได้สำเร็จ จากการตรวจสอบพบว่า โลมาติดเชือกลอบหมึกสาย (กุ๊งกิ๊ง) ขนาดยาวประมาณ 1.2 เมตร และมีอิฐบล็อกถ่วงอยู่ด้านล่าง ทั้งนี้ สัตวแพทย์ประเมินอาการสัตว์เบื้องต้นพบว่า โลมามีขนาดประมาณ 1.7 เมตร อยู่ในช่วงวัยรุ่น สัตว์ยังมีการตอบสนองดี สามารถว่ายน้ำทรงตัวได้ พบบาดแผลถลอกบริเวณครีบหลังและใต้โคนหาง ไม่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ จึงรักษาโดยการให้ยาลดปวดและยาแก้อักเสบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ก่อนทำการปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับชุมชนในพื้นที่ให้ช่วยเฝ้าระวัง หากพบการเกยตื้นซ้ำในพื้นที่ต่อไป.-512-สำนักข่าวไทย