อัปเดตอาการและแนวทางรักษาช้างพลายศักดิ์สุรินทร์

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- อัปเดตอาการช้างพลายศักดิ์สุรินทร์หลังครบกำหนดกักกันโรค 30 วัน พบว่า ปรับตัวเข้ากับพื้นที่และควาญได้ดี เบื้องต้นกินอาหารและน้ำได้ดี ขับถ่ายปกติ ไม่เครียด ไม่พบโรคติดต่อ สัตว์แพทย์เตรียมแนวทางรักษาอาการตาขวาเสี่ยงเป็นต้อ ขาซ้ายเหยียดตึงผิดรูป และพบโปรตีนปนในปัสสาวะสูง อาจมาจากภาวะเครียดสะสม คาดพ้นกักตัว 18 ส.ค.นี้


นายประสิทธิ์ เกิดโต โฆษกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ย้ายเข้ามาที่ศูนย์วิจัยและควบคุมเฝ้าระวังโรคสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดลำปาง (ส.คช.) ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2566  ภาพรวมพบว่า ปรับตัวเข้ากับพื้นที่และควาญทั้ง 3 คนได้ดี โดยยอมให้ขึ้นคอ เข้าใกล้สัมผัสตัวอย่างใกล้ชิด การกินนอนปกติ สามารถล้มตัวลงนอนเฉลี่ยวันละ 1-3 ชม.ต่อวัน ซึ่งแสดงถึงความไม่เครียด

ขณะที่การตรวจโรคช้าง 2 ครั้งแรกไม่พบเชื้อโรค ทั้งไข่พยาธิในอุจจาระ พยาธิในเลือดจาก thin blood smear, ELISA and PCR (Trypanosoma evansi) วัณโรค แท้งติดต่อ และ ฉี่หนู ไม่พบโรคปากและเท้าเปื่อย และโรคเฮอร์ปีสไวรัส (EEHV) ส่วนผลการตรวจค่าโลหิตวิทยาและชีวเคมีในเลือดปกติ ซึ่งช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ สามารถกินอาหารและน้ำได้ดี ขับถ่ายปกติ สามารถนอนราบบนพื้นทรายได้เฉลี่ยคืนละ 1 – 3 ชั่วโมง มีการพลิกตัวซ้าย-ขวาได้ โดยในทุกๆ วัน สัตวแพทย์จะเข้าทำความสะอาดแผลฝีที่สะโพกทั้งสองข้าง ซึ่งปัจจุบันมีขนาดลดลง


ล่าสุดมีการเก็บตัวอย่างเลือดตรวจสอบรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่า ผลจะออกในช่วงวันที่ 18 ส.ค.นี้ ซึ่งหลังจากนั้น หากกรมปศุสัตว์อนุมัติให้ปล่อยตัวก็จะเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ไปฝั่งศูนย์อนุรักษ์ช้าง จ.ลำปาง

ส.คช. ได้กำหนดให้ควาญช้างฝึกให้ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์เดินออกจากบริเวณที่เลี้ยงในระยะทางประมาณ 100 -200 เมตรทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง รวมทั้งให้ควาญช้างเข้าไปสัมผัสบริเวณขาช้างในระหว่างช้างยืนอาบน้ำ และสัมผัสเปลือกตาช้างในขณะที่ช้างนอน เพื่อให้ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์คุ้นเคยกับกิริยาดังกล่าวก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนตรวจวินิจฉัยจากสัตวแพทย์

ด้าน น.สพ.ดร.ทวีโภค อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ (อ.อ.ป.) เปิดเผยถึง แนวทางการรักษาอาการเจ็บป่วยจากภายนอกและภายในร่างกายของ “ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์” ดังนี้


1) ตาด้านขวา มีอาการคล้ายเป็นต้อกระจก เพื่อหาความผิดปกติ รวมทั้งการตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ เพื่อกำหนดตำแหน่งเลนส์ตา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาซึมเพื่อให้ช้างอยู่นิ่ง  โดยในขั้นตอนต่อไปสัตวแพทย์จะได้ทำการพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุด ซึ่งมีอยู่สองทางเลือก ได้แก่ การรักษาด้วยการสลายต้อ (หากพบว่าช้างมีความผิดปกติ) และการรักษาตามอาการ

2) ขาหน้าด้านซ้าย มีอาการเหยียดตึงและผิดรูป : ขาดังกล่าวมีความผิดปกติเรื้อรังมานาน ซึ่งยังไม่ทราบได้ว่าเกิดความผิดปกติที่ส่วนใด จำเป็นต้องวินิจฉัยทั้งจากการฉายรังสีเอ๊กซเรย์ การตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงอัลตราซาวด์ การตรวจวัดการเดิน ทั้งใช้เครื่องมือและดูด้วยตาเปล่าเพื่อใช้ในการประเมินประสิทธิผลของการรักษาต่อไป รวมทั้งการใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อยืนยันว่าไม่มีการอักเสบ ปวดบวม โดยในเบื้องต้นควรให้การรักษาแบบบรรเทาอาการไปพร้อมกัน ด้วยการให้ช้างออกกำลังกายเบาด้วยการเดินทางตรง การว่ายน้ำ และการประคบร้อนด้วยลูกประคบหรือการใช้เครื่องมือ เช่น เครื่องนวดด้วยคลื่นความถี่สูง, เลเซอร์ (Laser therapy) และ Magnetic shock wave

3) จากการตรวจปัสสาวะติดต่อกัน 3 ครั้ง พบว่า มีโปรตีนปนในปัสสาวะ รวมทั้งค่าถ่วงจำเพาะต่ำกว่าปกติ : ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ถึงการทำงานของไตบกพร่องได้ เมื่อพ้นจากระยะกักตัวแล้วจะย้ายช้างพลายศักดิ์สุรินทร์มายังโรงพยาบาลช้าง จะดำเนินการตรวจวัดค่าความดันเลือด (blood pressure) รวมทั้งคลื่นหัวใจ (EKG) ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจากการอาการดังกล่าวอาจตั้งข้อสังเกตว่า ในช้างที่มีความเครียดอาจเกิดภาวะที่พบว่ามีโปรตีนปนอยู่ในปัสสาวะได้ ดังนั้นควรตรวจปัสสาวะต่อเนื่องไปก่อน เพื่อติดตามในระยะยาว

อย่างไรก็ตามเมื่อช้างพลายศักดิ์สุรินทร์เข้าสู่กระบวนการรักษาของ ส.คช. แล้ว จะได้รับการดูแลสุขภาพทั้งทางกายและสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด โดยสัตวแพทย์จะมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ทั้งจากเลือดและอุจจาระอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพิจารณาคัดเลือกควาญช้างที่เหมาะสมกับช้าง

นอกจากมีควาญช้างเป็นเพื่อนคอยดูแลแล้ว ในอนาคตอาจจะพิจารณาหาเพื่อนช้างที่สามารถเข้ากับเจ้าพลายได้ให้อยู่เป็นเพื่อน ให้เจ้าพลายใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน