“วราวุธ” ขอบคุณทุกหน่วยพา “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับบ้านปลอดภัย

เชียงใหม่ 2 ก.ค. – “วราวุธ” ขอบคุณทุกหน่วยงานที่พาช้าง “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับบ้านอย่างปลอดภัย เล็งเปิดให้ประชาชนเข้าชมพลายศักดิ์สุรินทร์


เมื่อเวลา 14.03 น. วันนี้ (2 ก.ค.66) เครื่องบินแบบ Ilyushin IL-76 (อิลยูชิน อิล-76) ซึ่งบินจากสนามบินกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา นำช้าง “พลายศักดิ์สุรินทร์” มาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มารอต้อนรับที่อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยทันทีที่ “พลายศักดิ์สุรินทร์” มาถึง ประชาชนที่มารอต้อนรับเห็นภาพจากจอที่เจ้าหน้าที่นำมาตั้งไว้ให้ชม ต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจที่ “พลายศักดิ์สุรินทร์” มาถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัย บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

นายวราวุธ เปิดเผยว่า จากการตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยทีมสัตวแพทย์ พบว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ มีความพร้อมสมบูรณ์ในการเดินทางไปยังสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง โดยขบวนมีตำรวจนำทาง 2 คัน และปิดท้ายอีก 1 คัน เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดและเดินทางไปได้อย่างราบรื่น คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงที่หมาย


ทั้งนี้ เกือบ 2 ชั่วโมงที่เครื่องลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อตรวจสุขภาพ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ต้องพักกินหยวกกล้วยและน้ำ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเปิดประตูตู้ เพื่อฉีดน้ำคลายความร้อนและให้ดื่มน้ำก่อน รวมถึงนำน้ำแข็งก้อนไปไว้ในกรง ช่วยให้อากาศภายในกรงเย็นขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ก่อนที่ในเวลา 16.09 น. จะออกเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ ไปยังสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง โดยมีประชาชนทุกเพศทุกวัยมารอต้อนรับ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ที่สนามบินเป็นจำนวนมาก

นายวราวุธ แถลงภายหลัง “พลายศักดิ์สุรินทร์” ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งพลายศักดิ์สุรินทร์เหมือนรู้ดีว่าได้กลับมาประเทศไทย ให้ความร่วมมืออย่างดีตั้งแต่อยู่ศรีลังกา โดยสถาบันคชบาลฯ จ.ลำปาง จะต้องกักตรวจโรคเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนเริ่มทำการรักษา เบื้องต้นได้รับการประเมินและรักษาแค่ภายนอก ยังไม่ทราบดีว่าภายในของช้างพลายศักดิ์สุรินทร์มีความผิดปกติอย่างไรบ้าง

ส่วนจะมีการส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับศรีลังกาหรือไม่ หลังจากรักษาหาย นายวราวุธ บอกว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้ ขอยังไม่พูดถึง ตอนนี้สำคัญคือรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ให้หายก่อน เพราะวันนี้ยังไม่รู้ว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มีอาการอย่างไรบ้าง เห็นแค่อาการบาดเจ็บจากภายนอก ยังบอกไม่ได้ถึงภายใน


นายวราวุธ กล่าวขอบคุณควาญช้างทั้ง 4 คน ควาญช้างจากศรีลังกา และทีมสัตวแพทย์ทั้ง 2 คนที่อยู่บนเครื่อง ที่ดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นอย่างดี โดยกัปตันได้รายงานว่า ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่น่าวิตกกังวล พอลงจากเครื่อง พลายศักดิ์สุรินทร์มีอาการหิวน้ำ จึงกินน้ำเข้าไปจำนวนมาก มีการฉีดน้ำเข้าไปในกรง เพื่อให้อุณหภูมิลดลง ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่อยากกินน้ำ กินน้ำได้ปริมาณมาก

ส่วนที่มีแฟนคลับพลายศักดิ์สุรินทร์จำนวนมากในขณะนี้ อนาคตจะเปิดให้เข้าชมด้วยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คาดว่าเป็นไปได้ แต่จะเข้าไปชมในลักษณะใด คงต้องหารือกับเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ยอมรับว่า พลายศักดิ์สุรินทร์เป็นที่สนใจของประชาชน ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าไปชื่นชมและให้กำลังใจด้วย

เมื่อถามถึงอาการของช้างอีก 2 เชือกที่ยังอยู่ศรีลังกา นายวราวุธ กล่าวว่า ทั้ง  2 เชือกนั้น จากการประสานงาน และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษา ทส.ได้ไปดู รวมถึงจากรายงานที่เข้ามา ยังวางใจได้ว่ายังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการบาดเจ็บใด แต่เพื่อความไม่ประมาท ขอแจ้งว่า ถ้าประชาชนคนใดมีข้อมูล หรือมีประเด็นใดเป็นห่วง ขอให้แจ้งมายัง ทส. จะขอให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบต่อไป

เมื่อถามว่า มีการพยายามปกปิดที่อยู่และอาการของช้างที่เหลืออีก 2 เชือกนั้น นายวราวุธ บอกว่า คงเป็นเรื่องที่ต้องสอบถามไปยังศรีลังกา ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการขนส่งครั้งนี้ อยู่ที่ประมาณ 19 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นค่าขนส่ง เพราะเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่คาดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ดังนั้นจึงใช้เงินและใช้เวลาพอสมควร

เมื่อถามว่า จะมีการส่งช้างไปเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับประเทศต่างๆ อีกหรือไม่ นายวราวุธ ยืนยันว่า จะไม่มีส่งไปไหนอีกต่อไปแล้ว

สำหรับประวัติของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” รัฐบาลไทยส่งมอบให้ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรี เมื่อปี 2544 พร้อมกับ “พลายศรีณรงค์” ตามที่ศรีลังการ้องขอ เพื่อนำไปฝึกใช้ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของศรีลังกา ที่มีการจัดอย่างต่อเนื่องมากว่า 270 ปี โดย “พลายศักดิ์สุรินทร์” นับเป็นช้างเชือกที่ 3 ที่ไทยส่งให้ศรีลังกาไปเป็นทูตสันถวไมตรี ต่อจาก “พลายประตูผา” ที่เป็นเชือกแรก เมื่อปี 2523

ทั้งนี้ “พลายศักดิ์สุรินทร์” เป็นช้างที่มีคชลักษณ์โดดเด่นตรงตามความต้องการของศรีลังกา เพื่อใช้ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งหลังจากถูกส่งไปอยู่ศรีลังกา รัฐบาลศรีลังกาได้โอนกรรมสิทธิ์ช้างเชือกนี้ให้กับ “วัดคันเดวิหาร” (Kande Vihara) เป็นผู้รับช่วงดูแลต่อ เพื่อให้ทำหน้าที่ในขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในงานแห่พระธาตุประจำปีของศรีลังกา ซึ่งมีเฉลี่ย 30 ครั้ง/ปี โดยต่อมาปี 2565 มีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่า “พลายศักดิ์สุรินทร์” ถูกใช้งานอย่างหนัก และมีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ รวมทั้งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน จึงนำไปสู่กระบวนการให้ความช่วยเหลือและนำตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทยในที่สุด

ด้านสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) จ.ลำปาง แจ้งผ่านเพจว่า ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านที่ต้องการเดินทางมาต้อนรับ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ซึ่งเดินทางมาจากประเทศศรีลังกา ในวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2566 ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งสัตวแพทย์และควาญช้าง เพื่อให้ช้างได้พักผ่อนภายหลังจากการเดินทาง และได้ใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ตลอดจนมีโอกาสได้สร้างความคุ้นเคยกับควาญช้างไทย ภาษาไทย และได้ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่จากไปนานนับสิบปี จึงขอความร่วมมือมายังประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านที่ห่วงใยช้าง และติดตามการเดินทางของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ได้ที่อาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อให้ติดตามผ่านช่องทางดังกล่าว

“พลายศักดิ์สุรินทร์” จะใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง และสังเกตอาการเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน ภายใต้ระเบียบการควบคุมโรคระบาดสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อบางชนิด ในการนี้ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ได้จัดให้มีการไลฟ์ผ่านทางแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang (https://www.facebook.com/elephantcenter/) และจัดทำคลิปวิดีโอ เพื่อนำเสนอเรื่องราวการดูแลรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ ตลอดระยะเวลา 30 วันนี้ และเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลานี้ที่พลายศักดิ์สุรินทร์จะได้พักผ่อนทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ ตลอดจนได้รับการดูแลรักษาจนมีสุขภาพแข็งแรงดีแล้ว จึงจะเชิญชวนคนรักช้างทุกท่านได้เข้าเยี่ยมพลายศักดิ์สุรินทร์ ตามประกาศอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]