โคลัมโบ 30 มิ.ย.- สถานทูตในศรีลังการ่วมกับสวนสัตว์เดฮิวาลาจัดพิธีสงฆ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ “พลายศักดิ์สุรินทร์” พร้อมขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
นายพจน์ หาญพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกากล่าวว่า ทางสถานทูตและสวนสัตว์เดฮิวาลาร่วมกันจัดพิธีสงฆ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ โดยนิมนต์เจ้าอาวาสวัดคานเดวิหาราซึ่งเป็นวัดที่ดูแล “พลายศักดิ์สุรินทร์” นับตั้งแต่มาถึงศรีลังกาในปี 2544
เจ้าอาวาสได้นำอาหารมาให้ช้าง สวนมนต์และให้พร ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองให้ช้างเดินทางสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย โดยมีชาวศรีลังกาจำนวนหนึ่งมาร่วมส่ง “พลายศักดิ์สุรินทร์” หรือชื่อในภาษาสิงหลว่า “มุทุราชา” หมายถึง ราชาแห่งไข่มุก
นายพจน์กล่าวว่า ตั้งแต่ปรากฏข่าวว่า “พลายศักดิ์สุรินทร์” มีสุขภาพย่ำแย่เมื่อ 6 เดือนก่อน ชาวศรีลังกาส่วนใหญ่รู้สึกเสียใจ เพราะรู้จักช้างเชือกนี้เป็นอย่างดี ทำให้ได้มีการหารือระหว่างประเทศไทยและศรีลังกาเกี่ยวกับการพิจารณาให้ส่ง “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ประเทศไทย เนื่องจากต้องมีการใช้เครื่องมือวินิจฉัยอาการขาหน้าซ้ายที่งอไม่ได้และรักแผลจากฝีที่สะโพกทั้ง 2 ข้างซึ่งเป็นมานานให้หายขาด โดยเชื่อว่า การฟื้นฟูสุขภาพต้องใช้เวลายาวนาน
สำหรับเจ้าอาวาสวัดคานเดวิหารามีความผูกพันกับ “พลายศักดิ์สุรินทร์” มาก แต่เข้าใจถึงความจำเป็นที่ช้างต้องได้รับการรักษา จึงเป็นผู้อนุญาตให้นำช้างกลับไปประเทศไทยได้ ทั้งนี้ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาสภายหลังจากที่ “พลายศักดิ์สุรินทร์” เจ็บป่วยมานาน และด้วยความเห็นชอบของท่านนี้เอง จึงทำให้การเจรจาของสถานทูตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของศรีลังกาเพื่อนำ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไทยง่ายขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า คณะสัตวแพทย์ที่ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจหาโรค ในเบื้องต้นไม่พบเชื้อวัณโรคในช้าง ขณะนี้ผู้บริหารสวนสัตว์ สัตวแพทย์ศรีลังกา และคณะเจ้าหน้าที่สถานทูต ณ กรุงโคลัมโบ สัตวแพทย์ไทย และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชพิจารณาร่วมกันว่า ไม่ต้องใช้ยาซึมระหว่างขนย้ายช้าง เนื่องจากผลการฝึกซ้อมเข้ากรงขนย้าย ช้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีอาการตื่นตระหนก
นอกจากนี้ได้ปรับปรุงกรงเพิ่มเติมด้วยการเสริมบาร์ รวมทั้งจัดหาเข็มขัดช่วยพยุงช้างและคำนวณอาหารที่จะเตรียมไว้สำหรับช้างขณะเดินทางบนเครื่องบินด้วย โดยจะมีสัตวแพทย์ 2 คนดูแลตลอดเวลา ร่วมกับควาญไทย 3 คน โดยได้ให้สถานทูตไทยประสานขอให้หัวหน้าควาญศรีลังกาเดินทางมาด้วย 1 คนเนื่องจากดูแล “พลายศักดิ์สุรินทร์” ตลอดเวลาที่สวนสัตว์ อีกทั้งช้างยังเข้าใจคำสั่งภาษาไทยไม่มาก จึงเห็นควรให้ควาญศรีลังกามาช่วยดูแลระยะหนึ่ง
สำหรับการอำนวยการขนย้ายนั้น นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชมอบหมายให้นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทำหน้าที่ควบคุมดูแล
ส่วนการฝึกซ้อมเข้ากรงขนย้าย แบ่งเป็น 2 รอบคือ รอบเช้า 08:00 – 09:00 น. และรอบเย็นเวลา 18:30-19:30 น. โดยใส่คานกั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และคานบริเวณใต้คาง รวม 5 คาน ปิดประตูกรงทั้งสองด้าน และผูกขาช้างยึดภายในกรงทั้ง 4 มุม พบว่า ช้างอยู่ในอาการสงบและกินอาหารหญ้าเนเปียร์ได้ดีตามปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีและแสดงถึงความพร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดในวันที่ 2 กรกฎาคม โดยรมว. วราวุธจะเดินทางไปรับที่สนามบินเชียงใหม่ด้วยตัวเอง ตัวเอง เมื่อเดินทางถึงแล้ว หากช้างไม่อ่อนเพลียมากและมีอาการปกติ จะนำส่งไปดูแลที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จังหวัดลำปางซึ่งมีโรงพยาบาลช้างและมีสถานที่พร้อมสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพช้างต่อไป.-สำนักข่าวไทย