fbpx

“วราวุธ” เดินหน้าแก้ปัญหาการเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – รมว.ทส. ห่วงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่บางขุนเทียน ย้ำมีหลายมาตรการในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะโครงการทำเขื่อนกันคลื่นยาว 4.7 กิโลเมตร ตามที่ กทม. เสนอ ย้ำจะต้องหาแนวทางไม่ให้บริเวณหัวท้ายของเขื่อนกันคลื่นเกิดการกัดเซาะเพิ่ม ผู้ว่าฯ กทม. ขอให้เร่งรัดการอนุมัติงบประมาณที่รัฐบาลจะสนับสนุน 30% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำคณะผู้บริหารกระทรวง สำรวจและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบางขุนเทียน โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมรับฟังปัญหาและหาแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากประชาชนในพื้นที่

นายวราวุธ กล่าวว่า สาเหตุการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยมี 2 ประการ คือ การกัดเซาะชายฝั่งโดยธรรมชาติ เช่น คลื่น กระแสน้ำชายฝั่ง น้ำขึ้น น้ำลง ลมมรสุม และพายุ และการกัดเซาะชายฝั่งจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การสร้างสิ่งก่อสร้างริมชายฝั่ง การสร้างรอดักทราย การสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ เป็นต้น


สำหรับการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบางขุนเทียนนั้น สาเหตุไม่ได้มาจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง สังเกตได้จากหลักเขตกรุงเทพมหานคร หลักที่ 28 แบ่งพื้นที่ระหว่างเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร กับจังหวัดสมุทรปราการ และหลักที่ 29 พื้นที่ระหว่างเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร กับจังหวัดสมุทรสาคร ที่จัดสร้างขึ้นหลังจากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกำหนดเขตจังหวัดในอ่าวไทยตอนใน พ.ศ. 2502 ตลอดระยะเวลา 60 ปี หลักเขตนี้ก็ยังโผล่พ้นเหนือน้ำ หากเกิดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลอย่างมีนัยสำคัญ หลักเขตนี้ควรจะจมอยู่ใต้น้ำ การแก้ไขปัญหาต้องใช้หลายมาตรการควบคู่กันไป

ส่วนโครงการจัดสร้างเขื่อนกันคลื่นที่กรุงเทพมหานครเสนอความยาว 4.7 กิโลเมตร ซึ่งต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากรัฐบาลนั้น จะช่วยเร่งรัดให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ เมื่อสร้างเขื่อนกันคลื่น บริเวณหัวท้ายเขื่อนกันคลื่นอาจเกิดการกัดเซาะมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น พร้อมได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด​

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ฝากนายวราวุธให้ช่วยเร่งรัดงบประมาณโครงการดังกล่าว โดยการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณนี้ใช้งบประมาณของ กทม. 70% รัฐบาลสนับสนุน 30% ตลอดจนต้องเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนเพื่อช่วยลดการกัดเซาะชายฝั่ง



นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีปัญหาการทรุดตัวของแผ่นดิน สาเหตุจากเป็นพื้นดินอ่อนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ บางส่วนของกรุงเทพมหานครจึงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง รวมทั้งการสูบน้ำบาดาลในอดีต การก่อสร้างอาคารที่มีน้ำหนักมาก การถมคลองเปลี่ยนเป็นถนน ทำให้พื้นที่รับน้ำที่เคยมีจำนวนมากในอดีตหายไป การกีดขวางและการอุดตันการระบายน้ำ เป็นต้น สถานการณ์โลกร้อนที่มีผลต่อการจมน้ำของกรุงเทพฯ มีผลกระทบต่อเนื่องมาจากการเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากปรากฏการณ์ลานีญา (La Nina) และเอลนีโญ (EI Nino) ที่ทำให้มีฝนมากหรือน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกประเทศก็ให้ความสำคัญ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อยู่ระหว่างปรับปรุงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ หรือ UNFCCC : NAPs  ภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านการปรับตัวแคคูน UNFCCC : Cancun Agreement เพื่อเป็นกลไกและวิธีการในการระบุความจำเป็นต่อการปรับตัวในระยะกลางและระยะยาว นำไปสู่การบูรณาการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ากับนโยบาย แผนงาน และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและประกาศใช้ต่อไป

นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า ในส่วนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) มีภารกิจที่เกี่ยวข้องในเขตบางขุนเทียน เป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวของกรุงเทพมหานครที่ติดทะเล ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร โดยสถานภาพชายฝั่งของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน มีระยะทางชายฝั่งประมาณ 7.11 กิโลเมตร มีสภาพพื้นที่เป็นหาดโคลนอยู่ในแนวทางการฟื้นฟูเสถียรภาพชายฝั่ง (Coastal rehabilitation) เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ได้มีการดำเนินการแก้ไขในพื้นที่ดังกล่าวแล้วทั้งหมด แต่ยังมีการกัดเซาะอยู่ประมาณ 2.60 กิโลเมตร และไม่มีการกัดเซาะเพิ่มระยะทาง 4.51 กิโลเมตร ปัจจุบันมีโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของกรุงเทพฯ ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น การปักเสาคอนกรีต เขื่อนหินป้องกันคลื่นนอกชายฝั่ง และเขื่อนหินทิ้ง เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ภายหลังการก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง แนวชายฝั่งในเขตบางขุนเทียนเริ่มปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งที่เป็นผลมาจากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ในระยะเวลา 3 ปีย้อนหลัง

ทั้งนี้ กรม ทช. ได้มีแนวทางบริหารจัดการแนวชายฝั่งทะเลเขตบางขุนเทียน เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจจะทำให้กรุงเทพมหานครจมใต้น้ำ โดยดำเนินการตามแนวทางการจัดทำแผนงาน โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 โดยใช้แนวทางฟื้นฟูเสถียรภาพชายฝั่งเป็นหลัก คือ การกำหนดพื้นที่ถอยร่น การปลูกป่า และการปักเสาดักตะกอน พร้อมกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) มีการสนับสนุนการใช้แนวทางธรรมชาติในการจัดการปัญหาภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน อาทิ การแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง โดยการฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งดั้งเดิมที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูป่าชายเลนตลอดแนวชายฝั่ง ปัจจุบันผืนป่าชายเลนบริเวณบางขุนเทียนขาดความอุดมสมบูรณ์ มีความหนาแน่นประมาณ 50 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เพราะป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ต้องมีความหนาแน่นประมาณ 300 เมตร

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องการดำเนินการในรูปแบบการปักเสาดักตะกอน หรือวิธีการดักตะกอนอื่นๆ ที่เหมาะสม การปลูกป่าชายเลนโดยภาครัฐและเอกชน การสร้างแรงจูงใจในการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ อาทิ การลดภาษี การถอยร่นพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ประกอบอาชีพ เช่น การเลี้ยงกุ้ง จากแนวน้ำทะเล เพื่อพื้นฟูป่าชายเลน การจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณชายฝั่งให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เวนคืนพื้นที่แนวชายฝั่งในระยะ 300-500 เมตร ตลอดแนวชายฝั่งเพื่อสร้างแนวป่าชายเลน ทำการรื้อถอนโครงสร้างแข็งที่ไม่มีการใช้ประโยชน์และไม่มีการใช้งานแล้ว เช่น ท่าเรือ อาคาร ร้านค้าที่ปลูกสร้างรุกล้ำชายหาด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง รวมถึงการเสริมตะกอนดินจากการขุดลอกปากแม่น้ำ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร