ชลบุรี 12 มี.ค. – กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจสอบการตายของปลาที่ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นเกยหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี พบเกิดจากอวนแตก โดยปลาที่ตายเป็นเป็นปลาตะเพียนน้ำเค็มซึ่งขณะนี้เป็นฤดูชุกชุม นอกจากนี้ยังตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล ไม่พบความผิดปกติใดๆ โดยอยู่ในเกณฑ์คุณภาพน้ำทะเลเพื่อการนันทนาการ ขณะนี้เทศบาลเมืองแสนสุขเก็บซากปลาและทำความสะอาดหาดเรียบร้อยแล้ว
นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 รายงานผลการตรวจสอบสาเหตุการตายของปลาที่ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยหาดบางแสน จังหวัดชลบุรีตามที่ได้รับแจ้งจากเทศบาลเมืองแสนสุขเมื่อเวลาประมาณ 17:20 น. พบการขึ้นเกยหาดของปลาทะเลจำนวนมากบริเวณชายหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยพบว่า ปลาที่ตายเป็นปลาชนิดเดียวกันคือ “ปลาตะเพียนน้ำเค็ม” ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Anodontostoma chacunda มีชื่อเรียกอีกว่า ปลาโคกหรือปลามักคา เป็นปลาน้ำเค็มและน้ำกร่อยชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาหลังเขียว
ทั้งนี้ซากปลาที่เกยหาดมีขนาดใกล้เคียงกันทั้งหมด ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร จึงตรวจสอบข้อมูลจากเครือข่ายอนุรักษ์ ผู้ประกอบการแพปลา และเรือประมงในพื้นที่พบว่า เรือประมงอวนล้อมได้ออกจับปลาปลาตะเพียนน้ำเค็มที่ชุกชุมมากในระยะนี้ ปริมาณที่จับได้มากถึงวันละหลายหมื่นกิโลกรัม โดยขณะทำการประมง อวนที่จับปลาเกิดขาด ทำให้ปลาที่จับได้หลุดลอยและถูกคลื่นลมซัดไปเกยบริเวณชายหาดบางแสน
ต่อมาเทศบาลเมืองแสนสุขได้จัดเก็บซากปลาทั้งหมดออกจากชายหาดบางแสน มีน้ำหนักรวมโดยประมาณ 8,000 กิโลกรัม และทำความสะอาดชายหาดเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อหาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลคุณภาพน้ำเบื้องต้นจากสถานีตรวจวัดน้ำอัตโนมัติที่ศรีราชาซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้เคียงมากที่สุด (วันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 17:00 น.) อุณหภูมิ 29.32 องศาเซลเซียส ความเค็ม 31.70 PSU ความอิ่มตัวออกซิเจนละลายในน้ำ 270.30% ความเป็นกรด-ด่าง 8.33 อยู่ในเกณฑ์คุณภาพน้ำทะเลเพื่อการนันทนาการ
สำหรับ “ปลาตะเพียนน้ำเค็ม” เป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สามารถจำหน่ายได้ในราคา 30-40 บาท/กิโลกรัม ในช่วงนี้มีความชุกชุมมากในพื้นที่ตำบลแสนสุขและใกล้เคียง สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนชายฝั่งจำนวนมาก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี ทางศวบอ. ได้กำชับเรือประมงให้ทำการประมงด้วยความระมัดระวังเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง.-สำนักข่าวไทย