กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 รุนแรงต่อเนื่องนานกว่าคาดการณ์ เหตุหมอกควันข้ามแดนและความแปรปรวนของสภาพอากาศ โดยวันนี้ยังเกินค่ามาตรฐานถึง 39 จังหวัด เตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ออกมาตรการคุมเข้มการเผาในพื้นที่เกษตรซึ่งพบมากในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หลายพื้นที่ยังเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่า การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กจะเริ่มลดลง แต่เนื่องจากประสบกับปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยพบจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ประกอบกับภาวะโลกรวนทำให้สภาพอากาศแปรปรวน ทำให้แม้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่ลมหนาวยังพัดปกคลุมอยู่ โดยพัดจากฝั่งตะวันออก แล้วพาฝุ่นละอองขนาดเล็กจากประเทศกัมพูชาเข้ามาสู่ไทย ขณะเดียวกันพัดฝุ่นละอองขนาดเล็กจากภาคเหนือของไทยเข้าไปในเมียนมาร์ด้วย
สำหรับในภาคเหนือตอนบนยังมีสถานการณ์ไฟป่าหลายพื้นที่ แต่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมของ GISDA พบทั้งจุดความร้อน (Hotspot) และพบพื้นที่เผาไหม้ (Burnt Scar) ในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางในพื้นที่เกษตร ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 15 มีนาคมนี้ จะเสนอให้มีการควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวดขึ้น
สำหรับผลตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 10 มีนาคม 2566 ณ 07:00 น. พบเกินค่ามาตรฐานใน 39 จังหวัดได้แก่ จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปางจ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานีจ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรีจ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.หนองคาย จ.เลย จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมาและจ. บุรีรัมย์
ส่วนผลการตรวจวัดรายภาคมีดังนี้
– ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 76 – 146 มคก./ลบ.ม.
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 33 – 106 มคก./ลบ.ม.
– ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37 – 97 มคก./ลบ.ม.
– ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32 – 76 มคก./ลบ.ม.
– ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 15 – 26 มคก./ลบ.ม.
– กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 43 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 35 – 87 มคก./ลบ.ม.
ส่วนการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล คาดว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 มีนาคม) มีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากลมใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่ช่วงระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคมต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้
ขณะที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงในพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและล่างต่อเนื่องถึงวันที่ 14 มีนาคมนี้
ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และairbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK.-สำนักข่าวไทย
