ขยายผลปราบขบวนการค้าตัวเงินตัวทอง-รณรงค์หยุดกินสัตว์ป่า

กรุงเทพฯ 1 มี.ค.- กรมอุทยานฯ เร่งขยายผลปราบปรามขบวนการค้าตัวเงินตัวทอง หลังจับกุมผู้ค้าใน อ. อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พบตัวเงินตัวทองทั้งที่มีชีวิตและชำแหละแล้วเกือบ 100 ตัว รวมถึงเต่านา-เต่าหับ-เต่าดำ พร้อมรณรงค์หยุดบริโภคเนื้อสัตว์ป่าเพื่อป้องกันการลดจำนวนและสูญพันธุ์ของสัตว์ ตลอดจนลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคสัตว์สู่คน


นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า กรมอุทยานฯ จะขยายผลดำเนินคดีต่อขบวนการค้าสัตว์ป่า จากการเข้าจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าได้ที่บ้านเลขที่ 274 หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีผู้ให้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ว่า จะมีการลักลอบซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานได้แก่ ตัวเงินตัวทอง (เหี้ย) และเต่า

วานนี้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และตำรวจสถานีตำรวจภูธรอู่ทองได้บุกเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีนายมนต์ เณรจาที อายุ 73 ปีเป็นเจ้าของ ภายในบ้านมีสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน 4 ชนิด ได้แก่ เหี้ยที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง 32 ตัว ซากเหี้ยวางกองอยู่กับพื้นและอยู่ในกะละมัง 59 ซาก เต่านา 20 ตัว เต่าหับ 2 ตัว และเต่าดำ 6 ตัวที่อยู่ในโอ่งมังกร 4 ใบ นายมนต์ให้การรับว่า รับซื้อเหี้ยและเต่ามาจากชาวบ้านเพื่อแปรรูปแล้วจำหน่ายให้กับนายประสิทธิ์ เหล็กเพชร อายุ 67 ปี พ่อค้าที่มารอรับซื้ออยู่พอดีเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ


ภายในบ้านยังมีอีก 5 คนที่กำลังชำแหละเหี้ยประกอบด้วย

 1. นายณรงค์ จามะรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

 2. นางสาวสร้อยฟ้า หงส์เวียงจันทร์ อายุ 41 ที่อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี


 3. นางปัญญา ทำจะดี อายุ 56 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

 4. นางสาวประภา ทำจะดี อายุ 52 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

 5. นางสาวอุไร จีนขี อายุ 51 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถาม ให้การว่า มาช่วยนายมนต์ชำแหละเหี้ยซึ่งได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท โดยไม่ทราบว่า เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีไว้เป็นความผิด

นอกจากนี้แล้วยังพบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการชำแหละซากสัตว์ 8 รายการได้แก่ มีด 14 เล่ม ขวาน 1 เล่ม ค้อน 2 ด้าม เครื่องชั่งกิโล 1 เครื่อง ไม้ทุบ 1 ด้าม ถังก๊าซหุงต้ม 4 ถัง หัวก๊าซ 3 หัว และถุงตาข่ายพลาสติกสีฟ้าไว้สำหรับเหี้ย 32 ถุง

ทั้งนี้นายมนต์ให้การว่า ไม่มีเอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตครอบครองหรือเพาะพันธุ์สัตว์ป่าแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่า เหี้ยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ลำดับที่91 ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ 2546 และการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ตาม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซี่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ข้อหา “ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนนายประสิทธิ์ให้การรับว่า ตนเองเป็นเพียงผู้มารับซื้อซากเหี้ยที่ได้ทำการชำแหละแล้ว 59 ตัวเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหี้ยที่ยังมีชีวิตอยู่และเต่าที่พบในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซี่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.อู่ทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับของกลางทั้งหมดได้แก่ ตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิต เต่านา เต่าหับ และเต่าดำส่งให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรีดูแล ส่วนซากตัวเงินตัวทอง 59 ซากนำไปทำลายที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากตามหลักวิชาการแล้ว

ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้รณรงค์หยุดการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายมาโดยตลอดเนื่องจากเมื่อหยุดบริโภคจะช่วยให้สัตว์ป่ามีชีวิตและทำหน้าที่ในธรรมชาติของเขา ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของกรมอุทยานฯ ในการอนุรักษ์ คุ้มครอง และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์ป่าและป่าไม้ โดยความต้องการเนื้อสัตว์ป่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดการล่า ฆ่า และค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย นำมาสู่การลดจำนวนของสัตว์ป่า จนบางชนิดเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ นอกจากนั้นยังเพิ่มความเสี่ยงของการติดโรคจากสัตว์ป่า ดังกรณีโรคเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์ป่าสู่คน

ข้อมูลการวิจัยของ TRAFFIC และสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน (ZSL) ในเดือนมิถุนายน 2564 ที่ศึกษาการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าของคนไทยในเขตเมือง พบว่า ร้อยละ 32 มีการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า รวมถึงเนื้อสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย และในจำนวนเท่าๆ กันนั้นมีแนวโน้มจะบริโภคอีกในอนาคต สำหรับกลุ่มประชากรในเขตเมืองที่บริโภคเนื้อสัตว์ป่าส่วนใหญ่ในประเทศไทย มีช่วงอายุระหว่าง 18-30 ปี มีฐานะและชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว โดยเหตุผลหลักในการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า คือ รสชาติ ความอยากรู้อยากลอง และความรู้สึกของความสำเร็จ ความตื่นเต้น แปลกใหม่ ไม่ใช่เพื่อการประทังชีวิต ดังนั้นจึงต้องรณรงค์เพื่อลดการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายและปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อเหล่านี้ในประเทศไทย อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความต้องการในการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมายในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน