กรุงเทพฯ 22 ก.พ.- “รมว. วราวุธ” เผยการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเป็นไปตามแนวคิดการจัดทำ One Map ของคทช. ในการแก้ปัญหาทับซ้อนของที่ดินของรัฐ โดยต้องมีการพิสูจน์ว่า เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ย้ำไม่ใช่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนเจ้าของรีสอร์ตตามที่ “ชูวิทย์” พูด หากพบขาดสิทธิ์การเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินและบุกรุกป่า จะดำเนินคดีถึงที่สุด แล้วทุบทิ้งอย่างเดียว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ออกมาให้ข้อมูลต่อสาธารณชนว่า รัฐบาลเตรียมขยับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการทุจริตด้วยการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรีสอร์ตรอบอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยนายวราวุธระบุว่า ขอบคุณที่นายชูวิทย์ห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมีนโยบายไม่อนุญาตให้นายทุนเข้ามารุกล้ำพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้การปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเป็นไปตามการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งกำหนดให้มีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) เพื่อแก้ปัญหาทับซ้อนของที่ดินรัฐซึ่งรับผิดชอบโดยหน่วยงานต่างๆ โดยความขัดแย้งจากการทับซ้อนของที่ดินรัฐเกิดขึ้นมายาวนาน จึงสนับสนุนทุกเส้นแบ่งแนวเขตที่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ จากนั้นคทช. จะนำที่ดินซึ่งไม่ใช่พื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติมาจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้ชุมชน
นายวราวุธกล่าวว่า หากมีการปรับปรุงแผนที่เพื่อแก้ปัญหาการทับซ้อนตาม One Map แล้ว อาจมีพื้นที่บางส่วน ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติแล้ว แต่ที่หลวงยังคงเป็นที่หลวง โดยรับรองสิทธิ์ถือครองการเข้าใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสม ไม่ใช่ให้กรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ยังต้องมีตรวจสอบว่า ผู้ถือครองที่ดิน เข้ามาอยู่และทำกินก่อนหรือหลังประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ กรณีผู้ประกอบการรีสอร์ต หากเข้าก่อสร้างภายหลังประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ต้องดำเนินคดีถึงที่สุด แล้วทุบทิ้งอย่างเดียว
นอกจากนี้กระทรวงยังมีหน้าที่จัดสรรที่ดินให้คทช. เพื่อนำไปจัดสรรให้ผู้ยากไร้ ส่วนกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ว่า ผู้ใดมีคุณสมบัติเหมาะสมในการได้รับการจัดสรรให้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทยซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
สำหรับการประชุมคทช. ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมเห็นชอบต่อผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) ในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สระแก้ว สุรินทร์ อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ และเลย (ยกเว้นกรณีแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี ซึ่งกรณีเร่งด่วนคือ พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) และให้สคทช. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป นอกจากนี้ยังมอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินรับเรื่องไปพิจารณา กรณีพื้นที่นอกแนวเขตที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้ส.ป.ก.-สำนักข่าวไทย