ศรีสะเกษ 17 ก.พ. – เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาออกลาดตระเวน พบบ่วงดักสัตว์ จำนวนมากใกล้เขตแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างเก็บกู้ พบ “อีเห็น” ติดกับดัก ขาขาด จึงเร่งช่วยเหลือ ย้ำห้ามนำอุปกรณ์การล่าและห้ามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติอย่างเด็ดขาด
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาซึ่งนำเจ้าหน้าที่ พร้อมชุดลาดตระเวน SMART Patrol ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จ.ศรีสะเกษ ออกตรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol) เพื่อป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ทป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่
ในระหว่างลาดตระเวนบริเวณห่างชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 100 เมตร ตรวจพบและได้เก็บกู้ทำลายบ่วงดักสัตว์ 33 หลัง โดยหลังหนึ่งมี “อีเห็น” 1 ตัวถูกกับดัก (บ่วงลวดสลิง) ยังมีชีวิตอยู่ แต่ขาขาดจึงช่วยเหลือและได้ปล่อยกลับสู่ป่าดังเดิม
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า แม้อีเห็นตัวนี้รอดชีวิต แต่การที่ขาขาดจะทำให้ดำรงชีวิตในป่าได้ลำบาก สำหรับ “บ่วงลวดสลิง” เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสัตว์ป่าเพราะเป็นอุปกรณ์ดักจับสัตว์ที่ดัดแปลงขึ้นมา โดยไม่จำกัดประเภทของสัตว์ที่เข้ามาติดกับดัก ซึ่งการทำงานของบ่วงดักสัตว์นั้น จะมีลักษณะการทำงานคือ “ยิ่งดึงยิ่งแน่น” สัตว์ที่ติดบ่วงจะทุกข์ทรมานเนื่องจากไปไหนไม่ได้และอดอาหารจนตาย ตลอดจนจะเกิดบาดแผลที่ข้อเท้า อาจติดเชื้อเป็นหนองและพิการได้
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเลิก ล่า ค้า และกินสัตว์ป่า พร้อมย้ำว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชห้ามการนำอุปกรณ์การล่าและห้ามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติทุกแห่งโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย