กรมอุทยานฯ วางแผนรักษา “สีดอฉีก” แบบระยะไกล

บุรีรัมย์ 9 ก.พ. – “หมอล็อต” เผยทีมสัตวแพทย์ยังคงเฝ้าติดตามอาการ “สีดอฉีก” ที่ตาขวาผิดปกติและขาหน้าขวาบาดเจ็บ ส่งผลให้เดินชนต้นไม้ โดยวางแผนรักษาระยะไกล เน้นให้ยากิน เพื่อไม่รบกวนช้าง


นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้ติดตามช้างป่าสีดอ  เพศผู้  NO.10 ที่เรียกชื่อว่า สีดอฉีก ตามที่มีผู้พบเห็นบริเวณป่าด้านทิศตะวันตกบ้านหนองเสม็ด ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ โดยพบว่า มีความผิดปกติที่ขวาและขาหน้าขวา อีกทั้งมีบาดแผลที่งวง

จากการประเมินการบาดเจ็บของ “สีดอฉีก” ช้างป่าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ซึ่งมีอายุประมาณ 45  ปี พบว่า บาดแผลที่งวงมีสามจุด โดยจุดล่างสุดของสันงวง แผลไม่ลึกแต่ยาว แผลปิดสนิดแล้ว ส่วนแผลที่เป็นรูสองจุดข้างบนนั้น รูแผลแคบลง มีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมา บาดแผลข้างในเป็นสีชมพู ไม่มีการติดเชื้อ จึงไม่น่ากังวลและไม่ต้องรักษา


ส่วนลูกตาขวามีขนาดฝ่อเล็กกว่าปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ประเมินการมองเห็นของตาขวาไม่ปกติ ส่วนตาซ้ายใช้งานมองเห็นได้ โดยรวมสามารถใช้ชีวิตเองได้ อาจมีความระแวงต่อเสียงและวัตถุที่อยู่ทางด้านขวามากขึ้น ดังนั้นผู้พบเจอ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าข้างขวาของช้างป่า “สีดอฉีก”

สำหรับขาทั้งสี่ข้าง สามารถลงน้ำหนักยืนและเดินเองได้ มีตุ่มที่ขาหน้าขวาไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ตุ่มที่ลำตัวบางตำแหน่งซึ่งอาจเกิดจากแมลง กิ่งไม้ที่มีหนาม หรือฝี การพับงอของข้อขาหน้าขวา ติดขัดเล็กน้อย เกิดการอักเสบ มีช่วงยืนพักขาเป็นระยะ ไม่พบแผลเปิด นอกจากนี้ยังพบว่า ใช้งวงจับดึงพืชอาหารได้ กินอาหารได้ และขับถ่ายปัสสาวะได้ปกติ

นายสัตวแพทย์ภัทรพลกล่าวว่า ช้างป่าสามารถใช้ชีวิตในการเดินหากินได้ โดยประเมินจากสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ผอม เห็นควรให้ทำการรักษาระยะไกลแบบไม่รบกวนช้าง ด้วยการให้ยาลดการอักเสบชนิดเม็ดแบบกิน ยัดใส่อาหาร เพื่อหวังผลรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณขาหน้าขวา โดยคำนวณยาตามน้ำหนักตัวช้าง


ทั้งนี้ได้วางแผนให้ยา 1 ครั้ง ด้วยการวางอาหารที่ยัดยารักษาและให้วางเพียง 1 จุดเท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่ช้างตัวเดิมจะกินยาซ้ำซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับยาเกินขนาดและอาจเกิดอันตรายต่อตัวช้างได้ และติดตามประเมินอาการอย่างต่อเนื่อง หากยังมีอาการเจ็บขา จะประเมินให้ยากินลดอักเสบต่อไป

นอกจากนี้ยังย้ำว่า การเข้าติดตามประเมินอาการช้างตัวดังกล่าว ต้องทำตามเหมาะสม ไม่รบกวนช้างเป็นระยะเวลานานหรือเข้าใกล้ช้างมากเกินความจำเป็น เนื่องจากทำให้ช้างที่บาดเจ็บอาจมีความเครียดมากขึ้น เหตุผลที่ไม่ให้ยารักษาในรูปแบบยาฉีดโดยการยิงยารักษาเหตุผลเพื่อลดการรบกวนช้างไม่ให้เกิดความกลัว ตกใจ ซึ่งช้างอาจจะวิ่งเตลิด ขาก็จะยิ่งเจ็บมากขึ้น ช้างอาจวิ่งชนต้นไม้ได้ หรือไม่ก็วิ่งเข้าหาคน และอาจทำให้ช้างมีพฤติกรรมความทรงจำต่อคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี และการรักษาแบบไม่รบกวนสัตว์เป็นการกำหนดพื้นที่หากินของช้าง ไม่ให้หวาดกลัวหนีไปอยู่บริเวณอื่น เพื่อง่ายต่อการติดตามและประเมินอาการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย