อธิบดีประมงย้ำคุมเข้มตรวจสอบซีพีเอฟเลี้ยง “เก๋าหยก” เฉพาะเพื่อวิจัย

กรุงเทพฯ 4 ก.พ.- อธิบดีกรมประมงชี้จะตรวจเข้มฟาร์มของซีพีเอฟที่เพาะเลี้ยง “ปลาเก๋าหยก” ให้เป็นไปตามที่ขออนุญาตเพื่อศึกษาวิจัย ย้ำหากนำปลาเป็นออกจากฟาร์ม จะมีโทษตามกฎหมายเนื่องจากเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร ส่งหนังสือด่วนให้ระงับการโปรโมทและการทำการตลาดทั้งหมดใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะพักใช้ใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดนี้


นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึงบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สั่งให้ระงับการประชาสัมพันธ์และการทำการตลาด “ปลาเก๋าหยก” ภายใน 3 วันเนื่องจากผิดเงื่อนไขการขออนุญาตนำเข้าปลาเก๋าหยกเพื่อการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยง

สำหรับ “ปลาเก๋าหยก” หรือ Jade perch มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scortum barcoo  เป็นปลาน้ำจืด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย มีการเพาะเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจในประเทศจีนและมาเลเซีย โดยในประเทศไทย “ปลาเก๋าหยก” จัดเป็น 1 ในสัตว์น้ำต่างถิ่น 13 ชนิดที่ห้ามเพาะเลี้ยง ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำพื้นถิ่นหายาก หรือป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ หรือที่เรียกว่า “เอเลี่ยนสปีชีส์


ทั้งนี้ผู้จะเพาะเลี้ยงต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมประมงหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมประมงมอบหมาย หากฝ่าฝืนตามมาตรา 65 วรรคสอง ต้องระวางโทษตามมาตรา 144 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง นำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ซีพีเอฟได้ขออนุญาตนำเข้าปลาเก๋าหยกจากจีนเพื่อการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงเมื่อปี 2561 ซึ่งกรมประมงอนุญาตให้เลี้ยงเฉพาะที่ฟาร์มในตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากระยะทดลองได้ชำแหละปลาทั้งหมดเป็นเนื้อปลา เหลือเพียงพ่อแม่พันธุ์ 40 คู่ ต่อมาบริษัทได้ขออนุญาตดำเนินการศึกษาวิจัยการเพาะพันธุ์ การเลี้ยง และการตลาดผลิตภัณฑ์ปลา Jade perch ในระบบปิดน้ำหมุนเวียนเชิงพาณิชย์เมื่อเดือน เมษายน 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ ซึ่งกรมประมงได้อนุญาตให้ศึกษาวิจัยดังกล่าว โดยผ่านมติของคณะกรรมการด้านความหลากหลายและด้านความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) ซึ่งต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กรมประมงกำหนดคือ เพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น  

การอนุญาตเพาะเลี้ยงเพื่อศึกษาวิจัยมีเงื่อนไขว่า บริษัทต้องดำเนินการในพื้นที่ที่กรมประมงอนุญาตคือ ที่ฟาร์มในตำบลยี่สาร โดยห้ามเคลื่อนย้ายปลามีชีวิตออกจากบริเวณที่อนุญาตอย่างเด็ดขาด ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมประมงไปตรวจสอบเป็นระยะๆ ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยด้านการตลาด กรมประมงอนุญาตให้จำหน่ายเป็นผลผลิตที่ไม่มีชีวิตเท่านั้นเช่น ปลาแช่แข็ง และอนุญาตให้จำหน่ายในช่องทางของบริษัทในเครือตามที่บริษัทเสนอแผนการศึกษามาเช่น ที่ซีพีเฟรชมาร์ท โลตัส แม็คโคร เท่านั้น ทั้งยังต้องรายงานการดำเนินการศึกษาวิจัยให้กรมประมงรับทราบทุกขั้นตอน ตลอดจนต้องส่งผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์แก่กรมประมง 


ต่อมาปรากฏว่า ซีพีเอฟได้โปรโมทเปิดตัว “ปลาเก๋าหยก” โดยชูระบบการเลี้ยงที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  พร้อมทำการตลาดปั้นเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ นอกจากนั้นยังนำไปโปรโมทในงานแถลงข่าวจัดกิจกรรม “นวัตกรรมยกระดับการประมงและผลิตภัณฑ์ประมง” ที่จะจัดขึ้นในงานในงานเกษตรแฟร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างวันที่ 3 – 11 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเป็นกิจกรรมที่เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับภาคีเครือข่ายที่กรมประมงและภาคเอกชนเข้าร่วม โดยกรมประมงไม่ได้อนุญาตและไม่ทราบมาก่อนว่า ทางซีพีเอฟจะนำเรื่องปลาเก๋าหยกมาประชาสัมพันธ์ในงานแถลงข่าว

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ได้ส่งหนังสือแจ้งให้บริษัทระงับการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นกรมประมงจะพักใช้ใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดนี้ ซึ่งหมายความว่า บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับปลาเก๋าหยกได้ต่อไป ที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ฟาร์มเลี้ยงเป็นระยะๆ แต่จากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบขึ้นอีกเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

ขณะนี้ยังไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย เพียงแต่เป็นการดำเนินการนอกเหนือจากกรอบโครงการวิจัยที่บริษัทเสนอต่อกรมประมงเพื่อขอรับอนุญาต ซึ่งทั้งการทำประชาสัมพันธ์และทำการตลาดเพื่อจำหน่ายปลาเก๋าหยกในเชิงพาณิชย์จะต้องรายงานให้กรมประมงทราบก่อน โดยเรื่องนี้ส่งผลให้เกิดข้อกังวลใจของสาธารณชนว่า หากมีการแพร่กระจายของสัตว์น้ำต่างถิ่น อาจส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำของประเทศไทยในอนาคต

สำหรับการแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “นวัตกรรมยกระดับการประมงและผลิตภัณฑ์ประมง” จัดขึ้นในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการเสวนาหัวข้อ “ปลาหยก วากิวแห่งสายน้ำ” สัตว์น้ำเศรษฐกิจใหม่ของไทยจากซีพีเอฟ โดยชูว่า เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายเช่น ไขมันดี มีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาแซลมอนถึง 3 เท่า ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และความดันสูง รวมทั้ง DHA (Docosahexaenoic Acid) ที่มีส่วนช่วยบำรุงเซลล์ประสาท สมอง และดวงตา เสริมภูมิคุ้มกันให้เด็ก ลดอาการอ่อนล้าจากการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีคอลลาเจนที่จะช่วยทำให้ผิวพรรณดี ลดการปวดข้อต่อ และชะลอการสลายของมวลกระดูก เลี้ยงจากกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยได้มาตรฐานสากล ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน

นอกจากนั้นนายเปรมศักดิ์ วนัชสุนทร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของซีพีเอฟยังระบุว่า “ปลาหยก” เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่เสิร์ฟขึ้นโต๊ะผู้นำ Apec 2022 โดยเชฟชุมพล ร่วมรังสรรค์เมนูชั้นเลิศ สร้างความประทับใจแก่ผู้นำระดับโลกจากประเทศต่างๆ ที่ได้ลิ้มลองเป็นอย่างมาก สะท้อนศักยภาพของปลาหยก ทั้งด้านรสชาติที่ดี ความอร่อย และคุณค่าทางโภชนาการสูง สร้างความภาคภูมิใจให้กับบริษัทฯ และประเทศไทยเป็นอย่างมาก จึงเป็นโอกาสดีที่จะขยายตลาดปลาหยกให้เป็นที่รู้จักและผลักดันให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจใหม่ของไทย เพราะนอกจากส่งเสริมสุขภาพที่ดีสู่ผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยกันลดโลกร้อนจากกระบวนผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกได้ทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้ตรวจสอบพบว่า วิดีโอประชาสัมพันธ์การเลี้ยงปลาเก๋าหยกที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียของซีพีเอฟได้ระบุรายชื่อร้านอาหารที่จำหน่ายเมนูจากปลาเก๋าหยกถึง 22 ร้าน ล่าสุดวิดีโอถูกลบออกแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]