กรุงเทพฯ 30 ม.ค.- อธิบดีคพ. ระบุ รัฐเข้มงวดตรวจจับควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุดในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ย้ำรถควันดำเป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของฝุ่น PM2.5 ตั้งจุดตรวจสอบครอบคลุมถนนสายหลัก สายรองทั้งขาเข้า-ออก 20 จุดต่อวัน โดยวันที่ 1-4 ก.พ. นี้ยังต้องเฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 ในกทม. และปริมณฑล รวมถึงภาคเหนือทั้งตอนบนและตอนล่าง
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2566 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และใต้เนื่องจากเป็นพื้นที่ใต้ลม เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและล่างต้องเฝ้าระวังในห้วงเวลาเดียวกัน
สำหรับผลการตรวจวัดปริมาณ PM2.5 ประจำวันที่ 30 มกราคม 2566 ณ 07:00 น. พบเกินค่ามาตรฐานใน 10 จังหวัดได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง เชียงใหม่ แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก สมุทรสงคราม เลย และนครพนม
ส่วนผลการตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31 – 70 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 26 – 58 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 18 – 52 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 21 – 32 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 12 – 28 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 24 – 46 มคก./ลบ.ม.
นายปิ่นสักก์กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีการตรวจวัดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเมืองหลัก พบว่า มีค่าสูงขึ้น ซึ่งยานยนต์เป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล ตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการตรวจรถควันดำ ได้เพิ่มจุดตรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปรามมิให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง
พร้อมย้ำว่า รัฐจะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการตรวจจับควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า-ออก 20 จุดต่อวัน จึงขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เพื่อลดมลพิษทางอากาศ เพื่อสุขภาพอนามัยของทุกคน
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 -27 มกราคม 2566 คพ. ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร ตรวจควันดำรถทุกประเภท (รถบรรทุก รถรับจ้างประจำทาง รถรับจ้างไม่ประจำทาง) ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลรวม 39,909 คัน เกินค่ามาตรฐานและพ่นห้ามใช้ 178 คัน โดยแยกเป็นรถบรรทุก 30,794 คัน พ่นห้ามใช้ 135 คัน รถโดยสารประจำทาง 7,528 คัน พ่นห้ามใช้ 38 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 1,587 คัน พ่นห้ามใช้ 5 คัน และผลการตรวจทั่วประเทศ ตรวจแล้ว 81,759 คัน เกินค่ามาตรฐานและพ่นห้ามใช้ 597 คัน (ค่ามาตรฐานความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 30)
ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK .-สำนักข่าวไทย