คาดนักท่องเที่ยวจีนทำรายได้ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเพิ่ม

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ คาด นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย จะไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่างๆ ซึ่งจะสร้างรายได้จากค่าเข้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลซึ่งนักท่องเที่ยวจีนนิยม ย้ำได้นำร่องระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ในอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและป้องกันการทุจริตจากการเก็บบริการ


นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวถึงการที่จีนเปิดประเทศซึ่งทำให้ชาวจีนออกเดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศไทย รวมถึงเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนจึงคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ซึ่งปีนี้ประมาณการว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยประมาณ 5 ล้านคน ก่อนการระบาดของโควิด-19 พบว่า ชาวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลเช่น เกาะพีพี เกาะเสม็ดเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนเป็นช่วงไฮซีซันของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล จึงสั่งการให้อุทยานแห่งชาติต่างๆ เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น โดยด้านสุขอนามัยให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญที่ทางอุทยานแห่งชาติต่างๆ ต้องดูแลอย่างเข้มงวด เมื่อนักท่องเที่ยวมามากขึ้นคือ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำปะการัง การดำน้ำตื้นให้อยู่ในบริเวณที่กำหนด พร้อมขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะ หากไปดำน้ำ ต้องไม่ใช้ครีมกันแดดที่มีสารที่ทำให้ปะการังตายซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีประกาศไว้


ขณะนี้การจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้นเช่นที่อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีดี มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและอินเดียไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดย 3 เดือนที่ผ่านมาจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ 40 ล้านบาท หากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่ม จะยิ่งส่งผลดี

นายสิทธิชัยกล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการทุจริตจากการเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการของอุทยานแห่งชาติต่างๆ ว่า กรมอุทยานแห่งชาติจัดทำและพัฒนาระบบการจัดเก็บเงินคำบริการและระบบการจองล่วงหน้าด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบออนไลน์ (E-Ticket) ขึ้นมา วันที่เปิดใช้ระบบวันที่ 1 มกราคม 2566 นำร่องในอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหาตนรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยให้ชำระเงินผ่านบัตรเครติตเดบิตหรือชำระเงินผ่าน Thai OR Payment เงินเข้าบัญชีของกรมเท่านั้น ลดการจัดเก็บและรักษาเงินของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ในอนาคตหากระบบมีความเสถียรเป็นที่ยอมรับและมีสัญญาณโทรศัพท์ครอบคลุม จะขยายผลไปในพื้นที่อื่นจนครบทุกแห่ง

นอกจากนี้กรมยังนำข้อมูลสรุปรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวแบบรายวันจากระบบ Database กลาง มาแสดงที่ข้อมูลสถิติทางหน้า Website สำนักอุทยานแห่งชาติ https//portal.dnp.go.th/p/nationalpark โดยบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาดูข้อมูลได้ตลอดเวลาเพื่อความโปร่งใส.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง

สาวสั่งทิชชูเปียก เจอ “ยาบ้า” ซุกในลำโพง 40,000 เม็ด

สาวสุดงง สั่งทิชชูเปียกในแอปดัง เอะใจกล่องหนักแปลกๆ เปิดออกมาแทบช็อกเจอ “ยาบ้า” และ “ไอซ์” โร่แจ้งผู้ใหญ่บ้าน-ตำรวจ มาตรวจสอบ

เคลียร์พื้นที่ตึก สตง.ถล่มครบ ไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม

ผอ.สปภ. เผยเคลียร์พื้นที่ตึก สตง.ถล่มครบ ไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนผู้ประสบภัยที่เหลือ 7 ราย ต้องรอนิติเวชรายงานผลพิสูจน์ชิ้นส่วนกว่าร้อยชิ้น ยืนยันคืนพื้นที่ตามกำหนด 15 พ.ค.นี้ และตำรวจจะอายัดพื้นที่เพื่อสอบสวนหาสาเหตุต่อ