กรุงเทพฯ 3 ม.ค.- “อาจารย์ศศิน” ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรออกแถลงการณ์ถึงนายกฯ รองนายกฯ รมว. วราวุธ และรก. อธิบดีกรมอุทยานฯ คืนความชอบธรรมให้ข้าราชการกรมอุทยานฯ ที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม จากการเรียกรับเงินแลกตำแหน่งของ “อธิบดีรัชฎา” ลั่นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระยะยาวองค์กรต้องล่มสลาย
นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรกล่าวว่า ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง คืนความชอบธรรมให้บุคลากรและการบริหารงานในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยเรียกร้องถึงพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รักษาการราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชให้คืนความชอบธรรมแก่บุคลากรของกรม จากการที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมโดยนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งล่าสุดถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าจับกุมเนื่องจากมีหลักฐานว่า เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใต้บังคับบัญชาและเรียกเอารายได้จากโครงการต่างๆ ในการดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 149
ทั้งนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียรซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านการปกป้อง ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้และสัตว์ป่า พิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องร้ายแรงของหน่วยงานราชการที่ทำหน้าที่ปกป้อง ดูแล ผืนป่าและสัตว์ป่าจากเงินภาษีของประชาชน เนื่องจากการเรียกรับผลประโยชน์และเรียกเอารายได้จากโครงการต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ล้มเหลวและขาดประสิทธิภาพของการบริหารหน่วยงาน ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเฉพาะความล้มเหลวในการสรรหา แต่งตั้ง บุคลากรในองค์กรที่เหมาะสม เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งถือว่า มีความสำคัญที่สุดในการดูแล ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ผืนป่าและสัตว์ป่า
สำหรับแนวทางแก้ปัญหามีดังนี้
1. ระยะเร่งด่วน (มกราคม-มีนาคม 2566) เร่งรัดการคืนความชอบธรรมให้กับบุคลากรของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรม โดยคืนตำแหน่งที่ถูกโยกย้ายในช่วงที่ผ่านมา และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาบุคลากรเข้ารับตำแหน่งตามระบบ เพื่อให้การเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์ทั้งอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นไปตามความรู้ และประสบการณ์ โดยเฉพาะการนำระบบ Career Path ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทำเรียบร้อยแล้วมาพิจารณาใช้ และกระบวนการสรรหาบุคลากรเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพื้นที่ควรโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้จากภายนอก
2. ระยะที่ 2 (เมษายน-ตุลาคม 2566) แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้อง ปรับโครงสร้างการบริหารงานของหน่วยงานภายในกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อลดความซ้ำซ้อนการใช้งบประมาณ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามภารกิจความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงความเหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณ จากงบประมาณประจำปี เงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยให้ความสำคัญกับหน่วยงานภาคสนาม อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และมุ่งเน้น ให้ข้าราชการควรต้องไปทำงานอนุรักษ์อยู่ในพื้นที่
3. การสรรหาบุคคลให้เข้ามาทำหน้าที่ผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะต้องพิจารณาจากความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง โดยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาคัดเลือกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้สาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลกระบวนการสรรหาดังกล่าว จะทำให้การสรรหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างการยอมรับร่วมกันในองค์กร และสาธารณชนอย่างแท้จริง
มูลนิธิสืบนาคะเสถียรหวังว่า ข้อเสนอเหล่านี้ จะได้รับการพิจารณาและนำไปสู่การพิจารณาปฏิบัติอย่างจริงจัง และจริงใจ เพื่อคืนขวัญกำลังใจ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความชอบธรรมของข้าราชการที่ทำหน้าที่ดูแล ปกป้องพิทักษ์รักษาผืนป่าและสัตว์ป่า เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติได้คงความสมบูรณ์คืนสู่ประชาชนคนไทยและนานาชาติสืบต่อไป โดยหากไม่เร่งดำเนินการแก้ไข จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านบุคลากรและการบริหารงานในองค์กรได้เลย ส่งผลให้ในระยะยาวองค์กรต้องล่มสลายแน่นอน.-สำนักข่าวไทย