เพชรบุรี 26 ธ.ค. – “วราวุธ” หนุนให้ป่าชุมชนขายคาร์บอนเครดิต โดยมีป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรีเป็นป่าชุมชนแห่งแรกที่ขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย กรมป่าไม้เร่งรัดขยายพื้นที่ดำเนินดำเนินงานด้านป่าไม้เพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิตให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “Kick off ป่าชุมชนแห่งแรก สู่ตลาดคาร์บอนเครดิต” ที่ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยระบุว่า ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางเป็นป่าชุมชนแห่งแรกที่ขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมาทส. พยายามขับเคลื่อนการดำเนินงานปลูกป่าเพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิต โดยมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดอย่างยิ่ง ขณะนี้เร่งรัดยกระดับการส่งเสริมหน่วยงานภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมดำเนินงานและพัฒนาศักยภาพชุมชนและประชาชนเพื่อดำเนินการปลูกและดูแลป่าไม้เพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิต ซึ่งมีประโยชน์ทั้งต่อความสมบูรณ์และยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงประโยชน์ในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจอีกด้วย
นอกจากนี้ยังสะท้อนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย ตามที่ประเทศไทยประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ในที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP 26
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางมีเนื้อที่ 1,397 ไร่ ซึ่งกรมป่าไม้ร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง นำร่องจัดทำโครงการ T-VER ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง โดยมี คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน และคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางและสมาชิกทำหน้าที่ในการปกป้องรักษาชุมชน ควบคุมดูแล และปลูกฟื้นฟูป่าชุมชน ซึ่งผลจากการที่ชุมชนเข้ามามีบทบาทในการปกป้องรักษาป่าชุมชน อนุรักษ์ควบคุมดูแล ปลูกฟื้นฟูป่าชุมชนมาโดยตลอด 7 ปี ส่งผลให้ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าตลอดจนเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน โดยมีคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรอง 5,259 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าจึงเป็นป่าชุมชนแห่งแรกของประเทศไทยที่พร้อมเข้าสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต
สำหรับการดำเนินการส่งเสริมภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการปลูกและดูแลป่าเพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิตในรูปแบบ “ป่าชุมชน” ซึ่งปัจจุบันมีการจัดตั้งป่าชุมชนแล้ว 12,117 แห่งทั่วประเทศ รักษาพื้นที่ป่าได้ 6.64 ล้านไร่ หากดำเนินการทุกพื้นที่รวมกันสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไว้ได้ 42 ล้านตันคาร์บอน โดยคาดว่าจะสามารถดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ราว 6.27 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
นอกจากนี้กรมป่าไม้เตรียมเสนอ ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากผลผลิตและบริการป่าชุมชน พ.ศ….. โดยกำหนดสัดส่วนการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตให้แก่คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนประจำป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียน ร้อยละ 90 เป็นของรัฐโดยกรมป่าไม้ ร้อยละ 10 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่กรมป่าไม้ดำเนินการเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจกภาคป่าไม้ ดังเช่น การพัฒนาป่าชุมชนเมืองเพื่อลดสภาวะโลกร้อน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล 512 แห่ง จัดฝึกอบรมหลักสูตร สร้างป่าพัฒนาเมือง จำนวน 167 รุ่น ปรับปรุงและพัฒนาสวนสาธารณะ 80 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติและบทบาทของต้นไม้ที่ช่วยลดสภาวะโลกร้อน การพัฒนาแห่งเรียนรู้การกักเก็บคาร์บอนในป่าชุมชนเมือง จำนวน 6 แห่ง 600 ไร่ ดำเนินโครงการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนและความหลากหลายทางชีวภาพในป่าชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมพื้นที่ศึกษา 61 ป่าชุมชน เพื่อประเมินและส่งเสริมป่าชุมชนให้เป็นแหล่งกักเก็บปริมาณคาร์บอนและความหลากหลายทาง เป็นต้น
ขอเชิญชวนชุมชนและหน่วยงานภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถประสานหน่วยงานของกรมป่าไม้ในพื้นที่เพื่อสอบถามรายละเอียด โดยกรมป่าไม้จะเร่งรัดขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ.-สำนักข่าวไทย