กรุงเทพฯ 21 เม.ย. – วงการลูกทุ่งเอฟเอ็ม ต้องสูญเสีย “วิทยา ศุภพรโอภาส” หรือ “เสี่ยแหบ” ผู้เป็นตำนานนักจัดรายการชื่อดัง ในวัย 73 ปี หลังเข้ารับการผ่าตัด ด้านครอบครัวติดใจการเสียชีวิต รอผลชันสูตรอย่างละเอียด เพราะก่อนหน้านี้รักษาโรคมะเร็งปอดจนหายดีแล้ว
เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “Vitaya Supaporn O Pas (วิทยา ศุภพรโอภาส)” โพสต์เรื่องราวการเสียชีวิตของนักจัดรายการชื่อดังระดับตำนาน โดยผู้แจ้งข่าวการสูญเสียนี้คือ “เป้ ศุภวิทย์” บุตรชาย โพสต์ข้อความระบุว่า “สวัสดีครับผม เป้ ศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส ลูกชายคุณวิทยา ศุภพรโอภาส นะครับ ผมขอแจ้งข่าวให้ทุกท่านทราบว่า ณ เวลานี้ คุณพ่อได้จากพวกเราไปแล้วอย่างสงบครับ”
ทั้งนี้ กำหนดการบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาเมรุ วัดราชวรินทร์ เขตธนบุรี โดยจะมีพิธีรดน้ำศพวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เวลา 15.00 น. และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน จากนั้นครอบครัวจะบรรจุศพไว้ 100 วัน เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพ
จากนั้นไม่นาน มีการแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “วิทยา ศุภพรโอภาส” เสียชีวิตจากการรับการผ่าตัดรักษามะเร็งปอด
สำหรับ “วิทยา ศุภพรโอภาส” เกิดวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2492 มีบุตรและธิดา 3 คน เป็นนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง พิธีกร ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2513 เป็นต้นมา ในปี 2540 ได้ริเริ่มก่อตั้งสถานีวิทยุลูกทุ่งเอฟเอ็ม และติดอันดับ 1 ของสถานีวิทยุยอดนิยม 5 ปีซ้อน และยังได้เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ 18 กะรัต, มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม, รวมพลคนลูกทุ่ง พร้อมกันนี้ยังได้ดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมเทปและแผ่นเสียงไทย ได้รับรางวัลเกียรติยศ สุพรรณหงส์ ปี 2562 และรางวัลนาฏราช ปี 2564 สาขารางวัลเกียรติยศด้านวิทยุ
ล่าสุดในเดือนมกราคม 2565 “วิทยา ศุภพรโอภาส” ก้าวเข้าสู่โลกโซเชียล ด้วยการจัดวิทยุแบบดั้งเดิม ผ่านยูทูบในชื่อช่องว่า “วิทยา ศุภพรโอภาส” ซึ่งภายในช่องจะมีเรื่องราวต่างๆ ของเพลง พร้อมเรื่องราวในวงการเพลงยุคก่อนๆ มาเล่าให้ฟัง และเรื่องราวอื่นๆ ในอดีตของวงการเพลง นำมาเล่าประกอบเพลง ซึ่งบางเรื่องหลายคนไม่รู้ โดยจะเน้นไปที่เนื้อหาเรื่องราวมากกว่าเพลง
ทั้งนี้ นายศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส ได้พูดถึงการเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดของคุณพ่อวิทยา ว่า “คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็งปอด ระยะที่ 1 ซึ่งให้คีโมและรักษาหายแล้ว ต่อมาคุณหมอบอกให้ผ่าตัด ก็เดินทางไปผ่าวันที่ 4 เม.ย. และฟื้นแล้ว เพราะคุณพ่อสั่งให้เด็กเอาไอแพดมาให้เล่น แต่พอตกกลางคืนเกิดวิกฤติขึ้น ทาง รพ.ช่วยเหลือล่าช้าและไม่มีอุปกรณ์พอ ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ คุณพ่อจึงหมดสติ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูตั้งแต่คืนนั้น กระทั่งมาเสียชีวิตวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ยืนยันคุณพ่อไม่มีโรคแทรกซ้อนอะไรทั้งสิ้น สาเหตุมาจากขั้นตอนช่วยเหลือและอุปกรณ์ เราค่อนข้างติดใจในเรื่องนี้ เพราะการเสียชีวิตของคุณพ่อไม่เกี่ยวอะไรกับมะเร็ง เพราะมะเร็งทำการรักษาแล้ว ผ่าตัดก็เสร็จแล้ว และคุณพ่อก็ฟื้นแล้ว พูดคุยได้ปกติ”
“ตอนที่ทาง รพ.โทรมาแจ้งข่าวว่าคุณพ่อเสียชีวิต ทางครอบครัวช็อกและตกใจมาก เพราะเป็นสิ่งไม่คาดคิด ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจน ทางครอบครัวรอผลชันสูตร และเตรียมแถลงข่าวกับทีมทนายอีกครั้ง เพราะยังไม่อยากพูดอะไรให้รุนแรง สำหรับสภาพจิตใจคนในครอบครัวตอนนี้แย่มาก อย่างที่บอกว่า คุณพ่อฟื้นจากการผ่าตัดและปกติดี ก่อนผ่าตัดยังไปตีกอล์ฟกับก๊วนเพื่อนเขาอยู่เลย อีกอย่างคุณพ่อก็แพลนเอาไว้หมดแล้วว่า ผ่าตัดเสร็จช่วงสงกรานต์จะพักฟื้น เตรียมอุปกรณ์ เตรียมงานทำยูทูบเรียบร้อย หลังจากนี้งานที่คุณพ่อทำไว้ ผมจะสานต่อทั้งหมด เพราะทุกวันนี้ก็ทำด้วยกันอยู่แล้ว”. – สำนักข่าวไทย