21 มี.ค. – “เอ๋” ภรรยา “เมฆ-วินัย” ร่ำไห้ยังทำใจไม่ได้ สามีจากไปอย่างกะทันหัน ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อดทนมาเยอะ ทำเพื่อครอบครัวมาตลอด พร้อมเป็นแม่และพ่อเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คน
นางอรชัญญาช์ ไกรบุตร หรือ เอ๋ ภรรยาของนายวินัย ไกรบุตร เปิดใจทั้งน้ำตาถึงการจากไปของสามี ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่ก็จะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อส่งพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย
พี่เมฆเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างนั้นมีการหยุดหายใจไปแป๊ปนึง ก่อนจะกระตุ้นให้ฟื้นกลับมา และหลังจากที่ฟื้นมาอีกครั้งพี่เมฆจะเรียกให้ไปหาเพื่อกอด หอมแก้มบ่อยจนผิดสังเกต ทำลักษณะนี้อยู่ประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะบอกว่าเหนื่อยมาก ซึ่งตอนนั้นคิดว่าอาจอ่อนเพลียจากโรค จึงบอกให้นอนพัก แต่ก็สังหรณ์ใจ
จนกระทั่งวันที่ 18 มีนาคม พี่เมฆมีอาการเกร็งตามร่างกาย และเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่เมฆอีกเลย ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงหนึ่งพี่เมฆอาการดีขึ้น แต่พี่เมฆก็ไปแกะสะเก็ดแผลตามร่างกายออกจนหมด จนเลือดไหลอาบท่วม บอกว่า มีคนบอกในฝันให้แกะแผลออกให้หมด ทำให้เธอคิดว่าสาเหตุนี้อาจจะทำให้แผลติดเชื้อ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ พี่เมฆมีอาการความดันตก หัวใจเต้นช้าลง และน้ำเริ่มท่วมปอด ซึ่งเธอกำลังทำเรื่องย้ายตัวพี่เมฆไปรักษาโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ด้วยอาการแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ย้ายไม่ทัน
ซึ่งวันสุดท้ายได้อยู่กับพี่เมฆจนวินาทีสุดท้ายจนเขาไป พี่เมฆสู้มาตลอด 5 ปี คอยบอกกันตลอดให้สู้ สู้จนถึงที่สุดถ้าเหนื่อยก็พัก เมื่อวานเธอก็บอกว่า ”ถ้าไม่ไหวก็พอแล้ว“ รักพี่เมฆมาก สิ่งที่เธออยากจะบอกพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องห่วงแล้ว ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อดทนมาเยอะ ทำเพื่อครอบครัวมาตลอด สร้างเป้าหมายให้ลูกมาดีที่สุดแล้ว อะไรที่พี่เมฆทำไว้จะสานต่อ จะทำต่อให้ดีที่สุด ในฐานะแม่ของลูกและภรรยาของพี่ ทั้งบริษัทที่วางแผนจะเปิดกันก่อนหน้านี้ด้วยเธอก็จะทำต่อ ส่วนลูกทั้ง 3 คนของพี่เมฆ จะเลี้ยงให้ดีกว่าเดิม จะเป็นทั้งพ่อและแม่ยอมรับลูกมีถามหาถึงตัวพี่เมฆ
ส่วนคอนเสิร์ตที่เพื่อนๆ นักแสดงศิลปินจะจัดให้ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล จะจัดในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เลียบด่วนรามอินทรา ก็จะยังคงเกิดขึ้น ไม่ยกเลิกแน่นอน และตั้งแต่ที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต พี่เมฆก็ตั้งใจจะไปมาตลอดและคอยถามหมอว่าไปได้มั้ย
ขอบคุณเพื่อนๆ ศิลปินนักแสดงทุกคนที่รักพี่เมฆ ”ถ้าพี่เมฆไม่ป่วยก็ไม่รู้ว่าเพื่อนรักเค้าขนาดไหน“ ขอบคุณทุกคนมากๆ และขอเป็นตัวแทนพี่เมฆขออโหสิกรรมแฟนคลับทุกคนที่รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดพี่เมฆที่ผ่านมา พี่เมฆเป็นคนพูดไม่ทันคิดแต่พี่เมฆเป็นคนจริงใจและไม่ได้คิดอะไรขอให้แฟนคลับและคนที่ไม่พอใจได้โปรดอโหสิกรรมให้พี่เมฆด้วย และยังได้ฝากไปถึงคู่รักสมัยใหม่ที่รักแบบฉาบฉวย อยากมองคู่ของตนเองที่ดูแลกันทั้งยามทุกข์และยามสุข อยากให้มองครอบครัวเธอยามที่มีปัญหาที่ไม่ได้ทอดทิ้งกัน
ด้านแม่ของเมฆ- วินัย เล่าทั้งน้ำตา ลูกชายอาการทรุดหนักหลังตนเองกลับบ้านเกิดได้เพียง 1 วัน ยอมรับเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่เสียดายไม่ได้สั่งลาครั้งสุดท้าย
นางห้าม๊า หมดจด แม่ของเมฆ วินัย ไกรบุตร ให้สัมภาษณ์หลังจากเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาถึงที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร ถึงการเสียชีวิตของลูกชาย ว่าที่ผ่านมาแม่ก็เป็นกำลังใจให้พี่เมฆมาตลอด สู้มาด้วยกัน รวมถึงพี่ๆน้องๆ ลูกสะใภ้ ก็สู้มาด้วยกันตลอด ซึ่งแม่เพิ่งกลับมาจากบ้านเมฆ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมาอยู่กับลูก 10 วัน เพราะตลอด 5 ปี ที่ลูกชายป่วย บินมาหาลูกทุกเดือน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันก็คือ 14 มีนาคม เมฆได้ร้องเพลงน้ำตาลาไทร ของไท ธนาวุฒิ ให้ฟังด้วย ซึ่งเป็นเพลงโปรดของเขา แต่ตอนนั้นเขาพูดแทบไม่มีเสียง แต่แม่จะกลับบ้านเขาเลยร้องเพลงให้แม่ฟัง และร้องเพลงเสียงชัดเลย เหมือนเขาร้องเพลงครั้งสุดท้าย
ที่ผ่านมาเขาก็ท้อ แต่เขาก็บอกตลอดว่าจะหายให้ได้ เพื่อลูก เพื่อแม่ เพื่อเมีย ซึ่งกำลังใจสำคัญของเขาก็คือ ลูกๆพี่ๆน้องๆ และเมียที่ให้กำลังใจมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมาแม่ก็บอกว่าเขาว่าให้สู้ไปด้วยกัน แต่แม่เองก็เคยท้อ แต่ก็สู้ และให้กำลังใจ และจริงๆ ตอนนี้ก็ยังอยากจะให้เขาสู้ แต่เขาคงสู้ไม่ไหวแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เอ๋ ลูกสะใภ้ ก็โทรไปบอกว่า อยากจะส่งเขาไปสุราษฎร์ฯ แม่ก็ยังบอกเลยว่าเขาจะไหวมั้ย เขาจะไม่มีแรงแล้วนะ จนกระทั่งเมื่อคืนลูกสะใภ้ โทรไปบอกซึ่งตอนนั้นแม่รู้สึก “แม่ใจหายไปเลย” จนนอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมฆ หลังจากนั้นจึงเดินทางมากรุงเทพฯ ทันที เพราะตอนแรกแม่จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วจะบินมาหาพี่เมฆเย็นวันนี้ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าสภาพจิตใจตอนนี้ก็แย่มาก
เมื่อวานแม่ก็รู้สึกมีลางสังหารณ์ เพราะก่อนลูกชายจะเสีย ก็ยังโทรหาเอ๋ หลังทราบว่าจะส่งไป รพ.จุฬาฯ แม่ถามว่า จะไหวเหรอเพราะแม่รู้สึกว่าเขาไม่ไหวแล้ว ส่วนก่อนหน้านี้แม่ยอมรับว่า เคยเตรียมใจไว้ เคยบอกลูกสาวคนโตว่า พี่เขาจะไม่ไหวแล้วนะให้ทำใจไว้ด้วย อยากบอกเมฆว่า “ให้หลับให้สบายนะลูก ไม่เจ็บไม่อะไรแล้ว” ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร แต่เสียดายที่ตนเองไม่ได้สั่งลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และอยากบอกลูกสะใภ้ด้วยว่ารักเขามากและเป็นห่วงเขา มีอะไรหลังจากนี้ก็จะช่วยเหลือกัน เพราะยังเป็นครอบครัวเดียวกัน “แม่รักลูกสะใภ้มาก เพราะเขาทำให้ทุกอย่าง รักเหมือนลูกที่เกิดมาเองคนหนึ่ง และไม่เคยให้สามีนอนที่สกปรก ซักผ้าทำอะไรให้สะอาดหมด หาไม่ได้แล้วลูกสะใภ้แบบนี้” ส่วนหลังจากนี้ก็ยังจะบินมาหาหลานมาหาลูกสะใภ้เหมือนเดิม.-416-สำนักข่าวไทย