ภรรยา “เมฆ” ร่ำไห้ ขอสามีไปอยู่ในภพภูมิที่ดี

21 มี.ค. – “เอ๋” ภรรยา “เมฆ-วินัย” ร่ำไห้ยังทำใจไม่ได้ สามีจากไปอย่างกะทันหัน ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อดทนมาเยอะ ทำเพื่อครอบครัวมาตลอด พร้อมเป็นแม่และพ่อเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คน


นางอรชัญญาช์ ไกรบุตร หรือ เอ๋ ภรรยาของนายวินัย ไกรบุตร เปิดใจทั้งน้ำตาถึงการจากไปของสามี ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่ก็จะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อส่งพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย

พี่เมฆเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างนั้นมีการหยุดหายใจไปแป๊ปนึง ก่อนจะกระตุ้นให้ฟื้นกลับมา และหลังจากที่ฟื้นมาอีกครั้งพี่เมฆจะเรียกให้ไปหาเพื่อกอด หอมแก้มบ่อยจนผิดสังเกต ทำลักษณะนี้อยู่ประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะบอกว่าเหนื่อยมาก ซึ่งตอนนั้นคิดว่าอาจอ่อนเพลียจากโรค จึงบอกให้นอนพัก แต่ก็สังหรณ์ใจ


จนกระทั่งวันที่ 18 มีนาคม พี่เมฆมีอาการเกร็งตามร่างกาย และเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่เมฆอีกเลย ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงหนึ่งพี่เมฆอาการดีขึ้น แต่พี่เมฆก็ไปแกะสะเก็ดแผลตามร่างกายออกจนหมด จนเลือดไหลอาบท่วม บอกว่า มีคนบอกในฝันให้แกะแผลออกให้หมด ทำให้เธอคิดว่าสาเหตุนี้อาจจะทำให้แผลติดเชื้อ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ พี่เมฆมีอาการความดันตก หัวใจเต้นช้าลง และน้ำเริ่มท่วมปอด ซึ่งเธอกำลังทำเรื่องย้ายตัวพี่เมฆไปรักษาโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ด้วยอาการแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ย้ายไม่ทัน

ซึ่งวันสุดท้ายได้อยู่กับพี่เมฆจนวินาทีสุดท้ายจนเขาไป พี่เมฆสู้มาตลอด 5 ปี คอยบอกกันตลอดให้สู้ สู้จนถึงที่สุดถ้าเหนื่อยก็พัก เมื่อวานเธอก็บอกว่า ”ถ้าไม่ไหวก็พอแล้ว“ รักพี่เมฆมาก สิ่งที่เธออยากจะบอกพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องห่วงแล้ว ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อดทนมาเยอะ ทำเพื่อครอบครัวมาตลอด สร้างเป้าหมายให้ลูกมาดีที่สุดแล้ว อะไรที่พี่เมฆทำไว้จะสานต่อ จะทำต่อให้ดีที่สุด ในฐานะแม่ของลูกและภรรยาของพี่ ทั้งบริษัทที่วางแผนจะเปิดกันก่อนหน้านี้ด้วยเธอก็จะทำต่อ ส่วนลูกทั้ง 3 คนของพี่เมฆ จะเลี้ยงให้ดีกว่าเดิม จะเป็นทั้งพ่อและแม่ยอมรับลูกมีถามหาถึงตัวพี่เมฆ

ส่วนคอนเสิร์ตที่เพื่อนๆ นักแสดงศิลปินจะจัดให้ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล จะจัดในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เลียบด่วนรามอินทรา ก็จะยังคงเกิดขึ้น ไม่ยกเลิกแน่นอน และตั้งแต่ที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต พี่เมฆก็ตั้งใจจะไปมาตลอดและคอยถามหมอว่าไปได้มั้ย
ขอบคุณเพื่อนๆ ศิลปินนักแสดงทุกคนที่รักพี่เมฆ ”ถ้าพี่เมฆไม่ป่วยก็ไม่รู้ว่าเพื่อนรักเค้าขนาดไหน“ ขอบคุณทุกคนมากๆ และขอเป็นตัวแทนพี่เมฆขออโหสิกรรมแฟนคลับทุกคนที่รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดพี่เมฆที่ผ่านมา พี่เมฆเป็นคนพูดไม่ทันคิดแต่พี่เมฆเป็นคนจริงใจและไม่ได้คิดอะไรขอให้แฟนคลับและคนที่ไม่พอใจได้โปรดอโหสิกรรมให้พี่เมฆด้วย และยังได้ฝากไปถึงคู่รักสมัยใหม่ที่รักแบบฉาบฉวย อยากมองคู่ของตนเองที่ดูแลกันทั้งยามทุกข์และยามสุข อยากให้มองครอบครัวเธอยามที่มีปัญหาที่ไม่ได้ทอดทิ้งกัน


ด้านแม่ของเมฆ- วินัย เล่าทั้งน้ำตา ลูกชายอาการทรุดหนักหลังตนเองกลับบ้านเกิดได้เพียง 1 วัน ยอมรับเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่เสียดายไม่ได้สั่งลาครั้งสุดท้าย

นางห้าม๊า หมดจด แม่ของเมฆ วินัย ไกรบุตร ให้สัมภาษณ์หลังจากเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาถึงที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร ถึงการเสียชีวิตของลูกชาย ว่าที่ผ่านมาแม่ก็เป็นกำลังใจให้พี่เมฆมาตลอด สู้มาด้วยกัน รวมถึงพี่ๆน้องๆ ลูกสะใภ้ ก็สู้มาด้วยกันตลอด ซึ่งแม่เพิ่งกลับมาจากบ้านเมฆ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมาอยู่กับลูก 10 วัน เพราะตลอด 5 ปี ที่ลูกชายป่วย บินมาหาลูกทุกเดือน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันก็คือ 14 มีนาคม เมฆได้ร้องเพลงน้ำตาลาไทร ของไท ธนาวุฒิ ให้ฟังด้วย ซึ่งเป็นเพลงโปรดของเขา แต่ตอนนั้นเขาพูดแทบไม่มีเสียง แต่แม่จะกลับบ้านเขาเลยร้องเพลงให้แม่ฟัง และร้องเพลงเสียงชัดเลย เหมือนเขาร้องเพลงครั้งสุดท้าย

ที่ผ่านมาเขาก็ท้อ แต่เขาก็บอกตลอดว่าจะหายให้ได้ เพื่อลูก เพื่อแม่ เพื่อเมีย ซึ่งกำลังใจสำคัญของเขาก็คือ ลูกๆพี่ๆน้องๆ และเมียที่ให้กำลังใจมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมาแม่ก็บอกว่าเขาว่าให้สู้ไปด้วยกัน แต่แม่เองก็เคยท้อ แต่ก็สู้ และให้กำลังใจ และจริงๆ ตอนนี้ก็ยังอยากจะให้เขาสู้ แต่เขาคงสู้ไม่ไหวแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เอ๋ ลูกสะใภ้ ก็โทรไปบอกว่า อยากจะส่งเขาไปสุราษฎร์ฯ แม่ก็ยังบอกเลยว่าเขาจะไหวมั้ย เขาจะไม่มีแรงแล้วนะ จนกระทั่งเมื่อคืนลูกสะใภ้ โทรไปบอกซึ่งตอนนั้นแม่รู้สึก “แม่ใจหายไปเลย” จนนอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมฆ หลังจากนั้นจึงเดินทางมากรุงเทพฯ ทันที เพราะตอนแรกแม่จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วจะบินมาหาพี่เมฆเย็นวันนี้ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าสภาพจิตใจตอนนี้ก็แย่มาก

เมื่อวานแม่ก็รู้สึกมีลางสังหารณ์ เพราะก่อนลูกชายจะเสีย ก็ยังโทรหาเอ๋ หลังทราบว่าจะส่งไป รพ.จุฬาฯ แม่ถามว่า จะไหวเหรอเพราะแม่รู้สึกว่าเขาไม่ไหวแล้ว ส่วนก่อนหน้านี้แม่ยอมรับว่า เคยเตรียมใจไว้ เคยบอกลูกสาวคนโตว่า พี่เขาจะไม่ไหวแล้วนะให้ทำใจไว้ด้วย อยากบอกเมฆว่า “ให้หลับให้สบายนะลูก ไม่เจ็บไม่อะไรแล้ว” ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร แต่เสียดายที่ตนเองไม่ได้สั่งลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และอยากบอกลูกสะใภ้ด้วยว่ารักเขามากและเป็นห่วงเขา มีอะไรหลังจากนี้ก็จะช่วยเหลือกัน เพราะยังเป็นครอบครัวเดียวกัน “แม่รักลูกสะใภ้มาก เพราะเขาทำให้ทุกอย่าง รักเหมือนลูกที่เกิดมาเองคนหนึ่ง และไม่เคยให้สามีนอนที่สกปรก ซักผ้าทำอะไรให้สะอาดหมด หาไม่ได้แล้วลูกสะใภ้แบบนี้” ส่วนหลังจากนี้ก็ยังจะบินมาหาหลานมาหาลูกสะใภ้เหมือนเดิม.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]