fbpx

“ณัฐวุฒิ” แย้มสัปดาห์หน้ามีนัดชุมนุมใหญ่

กรุงเทพฯ 29 ส.ค.-“ณัฐวุฒิ” แย้มสัปดาห์หน้ามีนัดหมายชุมนุมใหญ่ ยันแนวทางชัดเจนไม่ลุย ไม่บวก ไม่ปะทะ แต่จะไม่ลดละการขับไล่ ท้า ส.ส. ฝ่ายค้าน-รบ. เห็น ปชช.ตายเกินหมื่น ป่วยเกินล้าน หากยังยกมือไว้วางใจก็ให้รู้กันไป


วันนี้ (29 ส.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มกิจกรรม ว่า เราต้องการรวมพลังประชาชนแสดงออกในกิจกรรมคาร์ม็อบ ซึ่งครั้งนี้เป็นการนัดหมายครั้งสำคัญเพื่อประกาศการลงมติไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยประชาชน จากวันนี้จะมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง แล้วมีการนัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่ในไม่กี่วันครั้งหน้า การอภิปรายในสภาฯ เป็นบทบาท ส.ส. แต่สำหรับประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ เชื่อว่าเราลงมติไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ ไปแล้วก่อนหน้านี้ และมีการแสดงพลังให้พลเอกประยุทธ์ และ ส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาล ตระหนัก ว่าจะตัดสินใจเลือกพลเอกประยุทธ์ หรือเลือกประชาชน เจ้าของประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้เชื่อว่าขบวนคนเพิ่มจำนวนขึ้นจากครั้งที่แล้ว เราเพิ่มในเชิงภาพรวมมาตลอด ส่วนเชิงคุณภาพต้องการพิสูจน์เมื่อประชาชนเพิ่มขึ้น เราจะเดิมพันกับพลเอกประยุทธ์ ในการลงมติไม่ไว้วางใจ อย่างที่ได้เรียนไปแล้ว ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้สำคัญที่สุดทางการเมือง สถานการณ์ของพลเอกประยุทธ์ขาดความชอบธรรมอย่างถึงที่สุด เป็นภาวะที่ประชาชนทั้งประเทศส่งเสียง ไม่รับอำนาจ ไม่รับการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์อีกต่อไป ดังนั้นแม้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลจะสมประโยชน์ทางอำนาจทางการเมืองกันอยู่ แต่หากประชาชนร่วมกันแสดงพลังอย่างล้นหลาม เชื่อว่าผู้แทนราษฎรที่ต้องเดินกลับไปหาประชาชนต้องคิดให้มากเช่นเดียวกัน เมื่อประชาชนในทุกเขตเลือกตั้งปฏิเสธพลเอกประยุทธ์ ส.ส. ที่หักน้ำใจประชาชนลงมติไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จะบากหน้ากลับไปหาประชาชนและอธิบายได้อย่างไร ดังนั้นสถานการณ์การเมืองช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์จากนี้ไปถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ เรามีแนวทางชัดเจนไม่ลุย ไม่บวก ไม่ปะทะ แต่จะไม่ลดละการขับไล่ และจะมีการนัดหมายการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ส่วนวัน เวลา สถานที่ และรูปแบบ ขออธิบายความหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน วันนี้อยากให้เนื้อหาสาระ พลังจากคาร์ม็อบส่งไปยังประชาชนตามคาดหวังก่อน


สถานการณ์ทางการเมืองในรัฐสภา มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส. จะลงมติให้พลเอกประยุทธ์อยู่ต่อหรือไม่ ถือว่าสถานการณ์ในและนอกสภามาบรรจบพบกันในสัปดาห์หน้า เป็นสถานการณ์ใหญ่ต้องจับตามอง ตนขอแสดงความหวังให้พลเอกประยุทธ์ รับฟังเสียงประชาชนทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาและยอมรับเสียทีว่าหมดเวลาแล้ว ไม่มีศักยภาพขีดความสามารถพอที่จะรับมือวิกฤตินี้ได้ การประกาศสู้ต่ออยู่บนความบาดเจ็บล้มตายเสียหายของประชาชน ซึ่งไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ จนประชาชนต้องมาเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบออกมาโดยเร็วที่สุด

“สังคมเห็นชัดแล้วว่าแนวทางของเรามีแนวทางการต่อสู้ป้องกันการเผชิญหน้า หลีกเลี่ยงความรุนแรง ดังนั้นสถานการณ์ที่นอกเหนือเส้นทาง เป็นวาระกลุ่มต่างๆ ที่แสดงการต่อสู้ ตนไม่สามารถไปทักท้วงใดๆ แต่ขอห่วงใย ปราถนาดีทุกกลุ่มว่าให้คำนึงความปลอดภัยตนเองและส่วนอื่นๆ คำนึงเหตุผลประโยชน์แท้จริงของการต่อสู่ จะเลือกแนวทางใดขอให้พิจารณากันอย่างรอบคอบ ส่วนขบวนเราจะเกิดขึ้นจบลงตามเป้าหมาย ไม่มีนอกเกม ไม่มีการสุ่มเสี่ยงความวุ่นวาย ประสานตำรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีเจตนาเปิดเผยต่อกัน ในการอำนวยความสะดวกประชาชน เราจะขับไล่นายกฯ อย่างสงบ สันติ ซึ่งกิจกรรมของเราที่จะจบลงในเวลา 18.00 น. จะปราศจากอาวุธ และ เดินไปราบรื่นตามวัตถุประสงค์

“เราไม่จำเป็นต้องมีพลังใดๆ มากกว่านี้ ถ้าพลเอกประยุทธ์รู้จักประเมินตัวเอง หากยังเพิกเฉยดื้อด้าน จะมีการเคลื่อนไหว และเรียกร้องพลังประชาชนออกมาแสดงพลัง ส่งเสียงให้ทุกอย่าง โดยเชื่อว่าไม่ต้องสร้างความรุนแรงใดๆ ก็ผลักดันพลเอกประยุทธ์ออกไปได้ ตนขอท้าทาย หัวใจ ส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนตายเกินหมื่น ป่วยเกินล้าน พินาศวอดวาย หากยังยกมือไว้วางใจก็ให้รู้กันไป”


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง