เตรียมสอบเภสัช-ผู้เชี่ยวชาญด้านยา หากยันสารในเลือด”บอส อยู่วิทยา”มีสารโคเคน แจ้งข้อหา”เสพ”เพิ่มได้

กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ของตำรวจ ยืนยัน พบสารต้องสงสัยในเลือดนายวรยุทธ ตั้งแต่ปี 2555 แต่ที่ไม่แจ้งข้อหา เพราะไม่ชัดเจนที่มาของสารโคเคอีน ระบุ หากแน่ชัด สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้


             พลตำรวจเอกศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ไม่แย้งคำสั่ง ไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการสูงสุด  พลตำรวจโทสมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี และพลตำรวจโทกฤษณะ ทรัพย์เดช จเรตำรวจ  ในฐานะกรรมการฯ  แถลงผลประชุมนัดที่ 3 หลังจากใช้เวลาประชุมเกือบทั้งวัน

             พลตำรวจเอกศตวรรษ กล่าวว่า วันนี้กรรมการได้เชิญอดีตพนักงานสอบสวนคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา มาให้ข้อมูลโดยได้สอบถามลงลึกในรายละเอียดของสำนวน มีประเด็น สำคัญที่สังคมกำลังเคลือบแคลงสงสัยจะชี้แจง 2 ประเด็น คือ


           ประเด็นพบสารโคเคน หรือ โคเคอีนในเลือดของนายวรยุทธ ผู้ต้องหา จากข้อมูลของอดีตพนักงานสอบสวน ชี้แจงว่า แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ และผลตรวจออกมาวันที่ 11 กันยายน 2555 โดยแพทย์ผู้ตรวจยืนยันสารที่พบในเลือดของนายวรยุทธ  เกิดจากกระบวนการสลายตัวของสารที่เกิดจากโคเคนกับแอลกอฮอล์ โดยไม่ได้เป็นการตรวจพบสารโคเคนโดยตรงในเลือด และแพทย์ยังตรวจพบสารอีก 4 ชนิด ในเลือดของนายวรยุทธประกอบด้วย 1.อัลพาโซแลม 2.Benzoylecgonine 3.Cocaethglene และ 4.สาร คาเฟอีน  โดยสารที่ 1 เป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท อาจมาจากยานอนหลับ ตรวจสารที่ 4 คือสารที่พบในกาแฟ จึงไม่ใช่สารที่เป็นปัญหาในคดีนี้

           สำหรับสารที่เป็นปัญหาในคดี คือชนิดที่ 2 และ 3 ที่มาจากการย่อยสลายโคเคนกับแอลกอฮอล์ซึ่งทางการแพทย์ยืนยันว่า สารชนิดที่ 2. Benzoylecgonine เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทเกิดได้ในร่างกายคนเมื่อเสพโคเคนและจัดเป็นยาเสพติด  ส่วนสารชนิดที่ 3.Cocaethglene ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

            พลตำรวจเอกศตวรรษ ยังระบุว่าถ้าการตรวจเลือดพบสารชนิดที่ 2 และ 3 ในเลือดก็เท่ากับมีการเสพโคเคน หรือโคเคอีน แต่ ในชั้นสอบสวน เมื่อปี 2555 นายวรยุทธ อ้างว่าไปรักษาฟันกับหมอฟัน พนักงานสอบสวนจึงมีการไปสอบปากคำหมอฟัน ซึ่งให้การยืนยันว่ารักษาฟันให้กับผู้ต้องหาจริง แต่ใช้เพียงยาปฏิชีวนะแอมม็อกซี่ ขนาด 500 mg และไม่มีกาาใช้ยาเสพติดในการรักษา


              อย่างไรก็ตาม สารชนิดที่ 2 และ 3 อาจมาจากยาปฏิชีวนะ หรือเกิดจากการเสพโคเคนของผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ยังสรุปไม่ได้  คณะกรรมการจะสอบเภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญด้านยา เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หากสุดท้ายแล้วสรุปเป็นสารที่เกิดจากการเสพโคเคน ก็จะประมวลเรื่อง เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณาตั้งข้อหาเสพยาเสพติด เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา

               ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอก ที่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงคดี “บอส อยู่วิทยา” ซึ่งเสียชีวิตกะทันหัน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การเสียชีวิตของนายจารุชาติ จะไม่มีผลต่อการดำเนินการตรวจสอบ ของกรรมการชุดตน ส่วนการเสียชีวิตจะมีเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังอย่างไร เป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และตำรวจภูธรภาค 5 จะคลี่คลายคดีให้เกิดความกระจ่าง

          ทั้งนี้ ยืนยันนายจารุชาติ เป็นพยานขับรถกระบะ ตามหลังรถคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และ ไม่ใช่พยานใหม่ แต่เป็นพยานเก่า ที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำไว้แล้วเมื่อ 8 กันยายน 2555 รายการสอบสวนในครั้งนั้น ไม่ได้สอบสวนในประเด็น ขับรถเร็วของผู้ต้องหา ประเด็น ความเร็ว อัยการ เพิ่งมากำหนดให้สอบสวนเมื่อปลายปี 2562 ส่วนพลอากาศโทจักรกฤษณ์ ถนอมกุลบุตร สอบสวนครั้งแรก เมื่อ 8 กรกฎาคมปี 2558 ซึ่งสอบสวนหลังจากพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายวรยุทธ ข้อหาขับรถประมาทและออกหมายจับไปแล้ว

          อย่างไรก็ตาม ในประเด็นความเร็วของรถผู้ต้องหา ขณะพุ่งชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ไม่ตรงกัน ระหว่างผลตรวจ ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กับพยาน 2 ปากนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการ ให้เกิดความกระจ่าง ขณะนี้ยังตอบไม่ได้

           ด้านพลตำรวจโทสมชาย กล่าวว่า พนักงานสอบสวน ในขณะนั้น พิจารณาความเร็วรถยนต์ Ferrari ที่นายวรยุทธ ขับ โดยใช้ข้อมูลหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ขอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสภาพรถยนต์ จากกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง ซึ่งประเมินความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในชั้นสอบสวน มีคำสั่งไม่ฟ้องในข้อหาขับรถเร็ว เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่เชื่อ ว่าผู้ต้องหาขับรถเร็วบนถนนสุขุมวิท แต่อัยการสั่งฟ้อง

           ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องสอบให้ชัดเจนใช่ไหมว่าการใช้ดุลพินิจของพลตำรวจโทเพิ่มพูน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเหตุใด จึงไม่เชื่อในข้อมูลความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นหน่วยงานตำรวจ แต่กลับให้น้ำหนักกับปากคำพยาน คือ พลอากาศโทจักรกฤษณ์ และนายจารุชาติ ว่าผู้ต้องหาขับรถความเร็วไม่ถึง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและฝ่ายดาบวิเชียร เป็นฝ่ายตัดหน้ากะทันหัน พลตำรวจเอกศตวรรษกล่าว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ

         ทั้งนี้คณะกรรมการ ตรวจสอบชุดตำรวจจะประชุมพรุ่งนี้ เวลา 10:00 น และจะแถลงข้อมูลในรายละเอียดเพิ่มเติม อีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย